ตำรวจพิษณุโลกนำหมายเข้าจับและยึดทรัพย์ เสี่ยเจ้าของร้านอลูมิเนียม กลางเมืองพิษณุโลก หลังเป็นเจ้าพ่อเงินกู้คิดดอกเบี้ยสุดโหด อายัดทรัพย์ไว้ 40 รายการ ได้ดีถอยรถปอร์เช่ออกมาขับ
เมื่อวานนี้ (11 พ.ค.) พ.ต.อ.โยธิน ยากองโค ผู้กำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดพิษณุโลก พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ปราบกรามการฉ้อโกงทรัพย์สินประชาชน (ศปฉช) ภูธรจังหวัดพิษณุโลก ร่วมกับตำรวจศูนย์ปราบกรามการฉ้อโกงทรัพย์สินประชาชน (ศปฉช) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าตรวจยึดอายัดทรัพย์สิน หลังจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่าเจ้าของร้านดังกล่าวปล่อยเงินกู้ในอัตราดอกเบี้ยเกินกฎหมายที่กำหนดและมีการฉ้อโกง ทำให้ประชาชนเสียหายจำนวนมาก บางรายเสียหายรวมมูลค่ากว่าร้อยล้านบาท
ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานกับเจ้าของร้านอลูมิเนียมดังกล่าว เพื่อประณีประนอมและไกล่เกลี่ย เจรจาผ่อนปรนตามนโยบายรัฐบาล แต่เจ้าของร้านดังกล่าว ไม่ยินยอม กระทั่งเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายเรียก กระทั่งถูกออกหมายจับ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำกำลังทำการตรวจยึดอายัดทรัพย์สิน จำนวนทั้งสิ้น 39 รายการ พร้อมติดป้ายยึดอาคารดังกล่าว
โดยทรัพย์สินที่ตรวจยึด อาทิ อาวุธปืน, รถยนต์กระบะ อีซูซู สีขาว, รถยนต์เปอเช่ สีขาว รุ่น Cayman ซึ่งติดป้ายยึดอายัดไว้ตรวจสอบ อันเป็นฐานความผิด พรบ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจขับรถออกจากร้านทันที และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อีกจำนวนหนึ่ง พร้อมกับนำตัว นายมงคล เจ้าของร้านดังกล่าว ไปดำเนินคดีตามหมายจับ
พ.ต.อ.โยธิน ยากองโค ผู้กำกับสืบสวนจังหวัดพิษณุโลก กล่าวเพียงว่า วันนี้ได้นำหมายจับและหมายค้นมาจับกุมผู้ต้องหา ฐานความผิดปล่อยเงินกู้เกินกว่าหมายกำหนด และจะดำเนินการรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดี ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542
พ.ต.ท.พิเชษฐ์ ปั้นกาวี รองผู้กำกับสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก ในฐานะเจ้าของคดี กล่าวว่า เบื้องต้นคดีนี้ได้แจ้งข้อหา นายมงคล เจ้าของร้านเอสทีอลูมิเนียม ในฐานความผิดฉ้อโกงและปล่อยเงินกู้เกินกว่ากฎหมายกำหนด จากนั้นจะสืบสวนต่อในฐานความผิดพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 อีกครั้ง ล่าสุดได้นำตัวผู้ต้องหาไปสอบสวนที่ สภ.เมืองพิษณุโลก เพื่อดำเนินคดีต่อไป