Pattaya One News
Home » เข็มขัดรัดคอทิ้งศพเปลือย พบชิ้นส่วนเพิ่มทั้งกระโปรง ชุดชั้นใน สามียันเป็นของ “ผอ.อ้อย”
ข่าวท้องถิ่น

เข็มขัดรัดคอทิ้งศพเปลือย พบชิ้นส่วนเพิ่มทั้งกระโปรง ชุดชั้นใน สามียันเป็นของ “ผอ.อ้อย”

เข็มขัดรัดคอทิ้งศพเปลือย พบชิ้นส่วนเพิ่มทั้งกระโปรง ชุดชั้นใน สามียันเป็นของ “ผอ.อ้อย”

ตำรวจพบชิ้นส่วนเพิ่ม เป็นกระดูกสะโพก 2 ชิ้น ทั้ง กระโปรงสีกากี และสเตย์ สามียืนยันเป็นกระโปรงและชุดชั้นในของ “ผอ.อ้อย” แน่นอน เจ้าหน้าที่เผยคนร้ายฆ่าอำมหิตใช้เข็มขัดสีกากีรัดคอจากด้านหลัง ก่อนนำศพมาทิ้งโดยถอดเสื้อผ้าออกเพื่ออำพรางไม่ให้มีเสื้อผ้าติดอยู่กับศพหวังให้ตรวจสอบไม่ได้ว่าเป็นศพใคร และไม่เผาหรือฝังศพ แต่ทิ้งให้เน่าสลายตามธรรมชาติ เป็นอาหารสัตว์ป่า

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าจากกรณีที่พ่อแม่ญาติพี่น้องได้ออกค้นหาตัว น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน หรือ ผอ.อ้อย อายุ 37 ปี ผอ.กองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ที่หายตัวไปนานกว่า 3 เดือน โดยมี ร.อ.ศุภชัย ภาโส หรือ ผู้กองเหน่ง นายทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เป็นผู้ต้องหา จนพบศพ ผอ.อ้อยถูกทิ้งอยู่ที่บริเวณข้างทางขึ้นสู่เนิน 500 ห่างจากฐานอนุพงศ์ ประมาณ 400 เมตร เขตบ้านโนนสูง ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (23 ต.ค.) ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บชิ้นส่วนของศพเพื่อนำส่งไปตรวจพิสูจน์ ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันนี้ (24 ต.ค. 60) พ.ต.อ.ชยากร เทศะบำรุง ผกก.สภ.กันทรลักษ์ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.สังวร วันทะวี สารวัตรสอบสวน สภ.กันทรลักษ์ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.กันทรลักษ์ ไปร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.น้ำยืน และเจ้าหน้าที่ทหาร ร่วมกันออกตรวจค้นรอบบริเวณที่พบศพ ผอ.อ้อย เพื่อหาหลักฐานประกอบคดีเพิ่มเติม ซึ่งการค้นหาหลักฐานเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากบริเวณนี้มีกับระเบิดหลงเหลืออยู่เป็นจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนลงไปในพื้นที่ที่มีการค้นหาเนื่องจากเกรงว่าอาจกระทบต่อพยานหลักฐานที่กำลังค้นหาอยู่

พ.ต.ท.สังวร วันทะวี สารวัตรสอบสวน สภ.กันทรลักษ์ กล่าวว่า จากการที่ตนและคณะได้ตรวจค้นรอบบริเวณอย่างละเอียดแล้ว พบว่าห่างจากจุดที่พบหัวกะโหลกของ ผอ.อ้อยเป็นเนินลาดลงไปประมาณ 70 เมตร ได้ตรวจพบกระโปรงผู้หญิงสีน้ำตาล คาดว่าเป็นกระโปรงของเครื่องแบบข้าราชการถูกทิ้งอยู่บนพื้น มีคราบเศษดินและใบไม้ปกคลุมอยู่ และใกล้กันเจ้าหน้าที่ได้พบสเตย์รัดหน้าท้องสีดำ ซึ่งเป็นชุดชั้นในของผู้หญิงถูกทิ้งอยู่ และบริเวณใกล้กันเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบกระดูกบริเวณสะโพก จำนวน 2 ชิ้น ซึ่งได้มีการทำเครื่องหมายเอาไว้ เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาทำการตรวจสอบ และเก็บไปตรวจพิสูจน์ต่อไป

ทางด้าน นายวิทยา เกษแก้ว อายุ 37 ปี สามีของ ผอ.อ้อย กล่าวว่า กระโปรงสีกากี และ สเตย์ที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบนั้นตนมั่นใจว่าเป็นกระโปรง และสเตย์ของ ผอ.อ้อย ภรรยาของตนอย่างแน่นอน ทั้งนี้เนื่องจากกระโปรงมีขนาดรอบเอวเล็กเท่ากับรูปร่างของ ผอ.อ้อย ซึ่งจากการที่ได้ค้นพบชิ้นส่วนร่างของ ผอ.อ้อยทั้งหมดนี้ตนมั่นใจว่าเป็นศพของ ผอ.อ้อย อย่างแน่นอน ตนขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่ได้มาร่วมตรวจสอบหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งคงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม และหวังเป็นอย่างยิ่งและมั่นใจว่าศาลสถิตยุติธรรมคงจะให้ความเป็นธรรมแก่ตนและญาติพี่น้องในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ โดยหลักฐานทั้งหมดและพยานแวดล้อมชี้ชัดแล้วว่านายทหารยศร้อยเอกเป็นฆาตกรฆ่า ผอ.อ้อย อย่างแน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าตรวจค้นสถานที่เกิดเหตุและมีความเชี่ยวชาญคดีอาชญากรรม เปิดเผยว่า ร่างของ ผอ.อ้อยคาดว่าถูกคนร้ายฆ่าด้วยการใช้เข็มขัดสีกากีรัดคอจากบริเวณด้านหลัง โดยสังเกตจากเข็มขัดจะยังยึดติดอยู่กับเส้นผม และมีเศษกระดูกบริเวณคอติดอยู่กับเส้นผมประมาณ 3 ชิ้น โดยมีเข็มขัดสีกากีติดอยู่ จากนั้นคนร้ายได้นำเอาศพมาทิ้งไว้ โดยการถอดเสื้อผ้าออกเพื่อเป็นการอำพรางศพ ทั้งนี้เนื่องจากหากมีเสื้อผ้าติดอยู่กับศพจะสามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นศพของใคร

อีกทั้งลักษณะของศพไม่ได้ถูกเผาหรือฝัง เป็นการนำเอามาวางทิ้งไว้ให้เน่าสลายไปตามธรรมชาติ และมีการนำเอาเศษใบไม้มาปกคลุมอำพรางสายตาคนทั่วไปเอาไว้ และคาดว่าศพอาจถูกสัตว์ป่ากัดแทะกินเป็นอาหารทำให้ศพเหลือแต่กระดูก ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกำลังทำการตรวจสอบว่ากระโปรงที่พบนั้น ผอ.อ้อยซื้อมาจากร้านไหนอย่างไร ซึ่งขณะนี้ได้เบาะแสข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้คืบหน้าไปมากแล้ว Source: Manager Online

Get in touch with our news team by emailing us at [email protected]

Related posts

Pattaya One New Thailand, your go-to source for global and local news, alongside effective business advertising opportunities, tailored to the vibrant city of Pattaya.
Translate »