เกิดการเคลื่อนไหวทางทหารครั้งใหญ่ในรอบ 10 ปี ตอบรับผู้นำสหรัฐฯ เยือนเอเชีย ขู่ จัดการเกาหลีเหนือขั้นเด็ดขาด
ผู้นำสหรัฐฯ เดินทางทัวร์เอเชียเป็นเวลา 12 วันโดยเริ่มที่ญี่ปุ่นเป็นประเทศแรก ชี้ว่าโครงการนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ “เป็นภัยคุกคามต่อโลก รวมถึงสันติภาพและเสถียรภาพของนานาประเทศ”
ก่อนหน้านี้ ผู้นำสหรัฐฯ เคยเตือนกลายๆ ว่ารัฐบาลของเขาอาจก้าวข้ามวิธีทางการทูต และหันไปใช้กำลังทหารยุติความทะยานอยากด้านนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนืออดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา เคยประกาศว่าสหรัฐฯ ไม่พร้อมเจรจาต่อรองใดๆ ทั้งสิ้นกับเกาหลีเหนือจนกว่าพวกเขาจะแสดงเจตนาปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างเป็นรูปธรรมเสียก่อน โดยสหรัฐฯหวังว่ามาตรการคว่ำบาตรจากนานาชาติและแรงกดดันภายในจะนำการเปลี่ยนแปลงมาสู่เกาหลีเหนือได้ในที่สุด ขณะที่นักวิจารณ์กลับเห็นตรงกันข้ามว่านโยบายเช่นนี้ยิ่งเปิดโอกาสให้เกาหลีเหนือเดินหน้าพัฒนานิวเคลียร์ต่อไปได้เรื่อยๆขณะที่ทางด้านนายกฯ ซินโซ อาเบะ ยืนยันว่าญี่ปุ่นพร้อมสนับสนุนให้สหรัฐฯ นำทุกตัวเลือกมาวางบนโต๊ะ เพื่อจัดการกับภัยคุกคามเกาหลีเหนือ ไม่เว้นแม้แต่ปฏิบัติการทางทหาร พร้อมทั้งประกาศคว่ำบาตรทรัพย์สินขององค์กรและพลเมืองเกาหลีเหนือรวม 35 ราย
ทางด้านญี่ปุ่นยังได้จัดให้ ผู้นำสหรัฐฯ ได้พบปะกับครอบครัวชาวญี่ปุ่นที่ถูกรัฐบาลเกาหลีเหนือลักพาตัวไปเมื่อช่วงทศวรรษ 1970-80 โดยคนเหล่านี้ถูกเกาหลีหนือนำไปฝึกสายลับให้เรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมชาวญี่ปุ่นผู้นำสหรัฐฯ ยืนยันว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อคืนอิสรภาพให้แก่ชาวญี่ปุ่นเหล่านี้ พร้อมกล่าวเป็นนัยๆ ว่าสหรัฐฯ อาจจะยอมทำข้อตกลงบางอย่างกับ คิม จองอึนหลังจากนั้นทางด้านผู้นำสหรัฐฯ ได้เดินทางต่อเพื่อเยือนเกาหลีใต้ และได้เข้าหารือกับทางด้าน ประธานาธิบดีมุน แจอิน ของเกาหลีใต้ว่า เขาพร้อมที่จะสั่งใช้กำลังทหารเต็มอัตราศึกไม่ว่าจะจำเป็นขนาดไหน เพื่อหาทางที่จะหยุดยั้งเกาหลีเหนือไม่ให้เป็นภัยคุกคามต่อชีวิตผู้คนอีกหลายล้านชีวิต
ผู้นำสหรัฐฯ ได้แสดงท่าทีที่เป็นมิตรมากกว่าที่ผ่านมา ลดการแข็งกร้าวลง โดยเรียกร้องให้เกาหลีเหนือทำในสิ่งที่ถูกต้อง ซึ่งเขาก็เห็นการเคลื่อนไหวบางอย่าง แต่ไม่บอกว่าเป็นอะไร และตรงนี้น่าจะเข้าใจได้ว่า เกาหลีเหนือควรกลับมาสู่โต๊ะเจรจาและทำข้อตกลง นอกจากนั้นแล้ว ผู้นำสหรัฐฯ ยังกล่าวอีกว่า เกาหลีใต้ได้ตกลงที่จะซื้ออาวุธมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากสหรัฐฯ เพื่อใช้ป้องกันภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือขณะที่มีความเคลื่อนไหวทางด้านทหารเช่นกัน เมื่อเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐฯ 3 ลำพร้อมด้วยกองเรือรบติดตาม รวมตัวร่วมกันซ้อมรบในบริเวณแถบแปซิฟิกตะวันตก ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตระเวนเยือนเอเชีย ท่ามกลางเสียงเตือนเรื่องภัยคุกคามด้วยอาวุธนิวเคลียร์จากเกาหลีเหนือ เรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐฯทั้ง 3 ที่จะฝึกร่วม คือ นิมิตซ์, โดนัลด์ เรแกน, และ ธีโอดอร์ รุสเวลต์ ซึ่งแต่ละลำเป็นแกนกลางของหมู่เรือบรรทุกเครื่องบินโจมตี 1 หมู่ โดยแต่ละหมู่ยังประกอบไปด้วยเรือรบและเรือสนับสนุนอื่นๆ อีก ทั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ที่หมู่เรือบรรทุกเครื่องบินโจมตีอเมริกันถึง 3 หมู่ รวมกำลังกันอยู่ในภูมิภาคแถบนี้
ไม่เพียงเท่านั้น เรือพิฆาต อินาซุมะ ของญี่ปุ่น ก็จะเข้าร่วมการแสดงแสนยานุภาพครั้งนี้ด้วย Source: T News