ตามหาเมียไม่เจอคิดว่าตาย ฝรั่งเศร้าผูกคอดับสลด คาเล้าไก่ข้างบ้านหรู
เมื่อวันที่ 27 พ.ค. พ.ต.ท.ยุทธนา พุกสุข สารวัตรสอบสวน สภ.คลองขลุง ได้รับแจ้งเหตุมีชาวต่างชาติผูกคอเสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 44 หมู่ที่ 10 บ้านซับมะนาว ต.วังไทร อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร จึงเดินทางไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณเล้าไก่ที่ไม่ได้ใช้แล้ว พบร่างของนายเฮิร์บ เอลแมส์ อายุ 61 ปี ชาวฮอลแลนด์ ใช้เชือกไนล่อนผูกคอกับขื่อหลังคาเล้าไก่ และมีสายรัดเคเบิลมัดที่ข้อมือทั้ง 2 ข้าง ตามร่างกายพบรอยฟกช้ำ สภาพศพแข็งทื่อ คาดว่าเสียชีวิตมาหลายชั่วโมง
สอบสวนนายปรีชา ใจดี อายุ 38 ปี น้องชายของนางฉอ้อน อายุ 40 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต ให้การว่า พี่สาวของตนแต่งงานกับนายเฮิร์บและอยู่กินกันมา 2 ปีแล้ว ก่อนเกิดเหตุ พี่สาวมีปากเสียงกับนายเฮิร์บ แล้วเดินทางไปกรุงเทพฯ หลายวัน สอดคล้องกับพยานแวดล้อมที่ให้การในทำนองเดียวกันว่า ทั้งคู่มีปากเสียงกันเรื่องเงินทอง ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะบอกว่าออกไปหางานทำหาเงินเองก็ได้ แล้วเดินทางไปกรุงเทพฯ ได้ประมาณ 3-4 วันแล้ว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าเป็นการฆาตกรรม แต่ต่อมาได้หลักฐานจากสถานทูต พบว่าเมื่อคืนวันที่ 26 พ.ค. ผู้เสียชีวิตส่งอีเมลถึงถึงญาติที่บ้านเกิดว่าอยากจะฆ่าตัวตาย เพราะตามหาภรรยาไม่เจอ เข้าใจว่าภรรยาเสียชีวิตแล้ว ทางญาติของผู้ตายจึงประสานไปยังสถานทูตและแจ้งให้ทางการไทยทราบ พร้อมติดต่อผ่านมายังนางสุนันทา สุขสาสุณี นายก อบต.วังไทร เมื่อช่วงเช้าวันที่ 27 พ.ค.
ทาง นายก อบต.วังไทร จึงรีบแจ้งให้นายวินัย ภักดีสุวรรณ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 รีบไปตรวจสอบที่บ้านพักของนายเฮิร์บทันที โดยมีญาติพี่น้องของภรรยานายเฮิร์บ ออกติดตามหาด้วย พบว่าในห้องนอนชั้น 2 ของบ้านพักหรูที่สร้างไว้ได้ 2 ปี เปิดแอร์ทิ้งไว้ เมื่อตรวจทั่วบริเวณบ้านทุกห้องก็ไม่พบตัวนายเฮิร์บ จนไปพบผูกคอเสียชีวิตอยู่ในเล้าไก่ร้างที่ใช้เป็นที่เก็บของข้างบ้าน
จากนั้นทางเจ้าหน้าที่และญาติของภรรยาผู้เสียชีวิต ร่วมกันขึ้นไปตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่อยู่ในห้องนอน พบว่าทุกอย่างยังอยู่ปกติ มีการเขียนโน้ตอีเมลและพาสเวิร์ดทิ้งไว้ พร้อมพาสปอร์ตและเงินสดจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนให้อาสาสมัครกู้ภัยสว่างกำแพงเพชรธรรมสถานจุดโค้งวิไล นำศพส่งไปโรงพยาบาลคลองขลุงและส่งต่อไปยังสถาบันนิติเวช มหาวิทยาลัยนเรศวร พิษณุโลก เพื่อให้แพทย์ชันสูตรอีกครั้ง เพื่อสรุปสาเหตุและรายงานไปยังญาติของผู้เสียชีวิตที่อยู่ต่างประเทศให้คลายข้อสงสัยต่อไป
นอกจากนี้ ทางผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านได้กล่าวถึงผู้เสียชีวิตว่า เป็นคนที่มีจิตใจดีและยังเป็นจิตอาสาที่ช่วยสอนชาวบ้านให้รู้จักการทำหุ่นยนต์ และยังสอนภาษาให้กับชาวบ้าน แต่ผู้เสียชีวิตมักจะชอบเก็บตัวเงียบอยู่แต่ชั้น 2 ของบ้าน ซึ่งมีทั้งห้องนอนส่วนตัว ห้องรับแขก ห้องทำงาน และห้องครัว ส่วนญาติภรรยาก็มีห้องนอนติดกันอยู่ที่ชั้น 2 แต่ไม่ได้สุงสิงกันเท่าไร เนื่องจากผู้เสียชีวิตเป็นคนรักสันโดษ
ขอบคุณ ข่าวสด