โจ๋เมาพาญาติบาดเจ็บส่ง รพ. ฉุนให้กรอกบัตรก่อนรักษา รัวหมัดใส่เจ็บ
ญาติผู้ป่วยที่เมามายรีบนำตัวพามารักษาที่โรงพยาบาล แต่กลับก่อเรื่องขึ้น ไม่พอใจที่ต้องให้กรอกเอกสารมากมาย ก่อนปล่อยหมัดใส่เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ
วัยรุ่นเมาสุรารุมทำร้ายเจ้าหน้าที่เวรเปล ประจำห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลวังม่วงศรัทธาธรรม จ.สระบุรี ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบ ทราบว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลา 00.00 น. ของวันที่ 20 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ตอนนั้นมีรถเก๋งสีขาว ไม่ทราบทะเบียนและยี่ห้อ นำผู้บาดเจ็บมาส่งที่โรงพยาบาลบริเวณหน้าห้องฉุกเฉิน พบว่าวัยรุ่นบาดเจ็บมีแผลแตกบริเวณหน้า แผลยาวกว่า 2 เซนติเมตร ทราบชื่อ นายธีระพล อายุ 25 ปี
จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่ามีสาเหตุมาจากมีเรื่องทะเลาะวิวาทจึงได้มาทำการรักษา โดยคนติดตามนำมาส่งด้วย 2 คน ทราบชื่อนายปรีชา อายุ 29 ปี และนายวีนะ อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นญาติกัน
เมื่อมาถึงเจ้าหน้าที่พยาบาลได้แนะนำให้คนเจ็บเข้าห้องฉุกเฉินเพื่อทำการดูบาดแผล แล้วให้หนึ่งในคนที่ติดตามไปทำบัตรผู้ป่วยที่หน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ เพื่อเก็บบันทึกประวัติ จากนั้นชายทั้ง 2 คนเกิดความไม่พอใจเจ้าหน้าที่ เพราะต้องการจะให้รักษาคนเจ็บก่อน ถึงจะไปทำบัตรผู้ป่วย จึงได้เกิดการโต้เถียงกัน
ต่อมาได้เกิดการถ่มน้ำลายใส่เจ้าหน้าที่พยาบาลที่ห้องฉุกเฉิน แล้วเดินไปที่รถเก๋งของตนและนำมีดปลายแหลมปรี่ไปหาเจ้าหน้าที่พยาบาล ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ชุลมุนกันขึ้น ทำให้ นายสุชาติ เจ้าพนักงานฉุกเฉิน(เวรเปล) ได้รับบาดเจ็บ โดยเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลได้กดกริ่งฉุกเฉินไปยัง สภ.วังม่วง จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดำเนินการจับกุม
จากสอบถามพ่อค้าแม่ค้าที่ขายอาหารภายในโรงพยาบาล เล่าให้ฟังว่า รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากผู้บาดเจ็บทำงานมานานกว่า 5 ปี มีนิสัยเงียบขรึม แต่ต้องมาเจ็บตัวกับบุคคลที่เมาสุราที่มาใช้บริการของห้องฉุกเฉิน แล้วเกิดมีปากเสียงกันถึงขั้นลงไม้ลงมือมีคนบาดเจ็บ ซึ่งโรงพยาบาลแห่งนี้ไม่เคยเกิดเหตุในลักษณะนี้เลย เพิ่งมีครั้งนี้เป็นครั้งแรก
พันตำรวจเอกเอกภพ ตันประยูร ผกก.สภ. วังม่วง เล่าว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมชายที่สร้างความวุ่นวายไปดำเนินคดีแล้วโดยตั้งข้อหาทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกาย
ทางด้าน นายศราวุธ สุวรรณจูฑะ นายอำเภอวังม่วง จ.สระบุรี ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ อส.เข้าไปดูแลผู้บาดเจ็บภายในโรงพยาบาลเป็นเวลา 3 วัน เพื่อรักษาความปลอดภัยและกล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ไม่ว่าจะสถานที่ใดก็ตามควรมีสติอยู่เสมอ นอกจากนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานที่ราชการ