คสช.แจ้งเอาผิด 5 แกนนำม็อบอยากเลือกตั้ง ฝืนคำสั่งชุมนุม

รองโฆษก ตร. ยันการชุมนุมคนอยากเลือกตั้ง ไม่ตรงตามนัยยะ พรบ.ชุมนุมสาธารณะ ขัดคำสั่ง คสช. เตรียมดำเนินคดี 5 แกนนำ ยันรัฐบาลเข้าใจข้อเรียกร้อง มีเลือกตั้งตามโรดแมป

พล.ต.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) ในฐานะทีมโฆษก คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ร่วมกับ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวชี้แจงประเด็นการชุมนุมทางการเมืองของคนอยากเลือกตั้ง

โดย พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า การชุมนุมที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่เป็นการชุมนุมตามนัยยะของ พระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ การชุมนุม 2558 เนื่องจากว่าเป็นการชุมนุมทางการเมือง และการชุมนุมครั้งนี้เป็นการทำกิจกรรมต้องห้ามขัดคำสั่งคสช ที่ 3/2558

ทั้งนี้ ได้จัดกำลังตำรวจทั้งสิ้น 20 กองร้อย โดยมีกำลังพล ทั้งสิ้น 3,000 กว่านาย และมีการเฝ้าระวังจากกลุ่มมือที่สามที่จะทำให้เกิดสถานการณ์บานปลาย และได้มีคำสั่ง ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในภาพรวมมากที่สุด

ฝ่ายกฎหมายของ คสช. ได้ ไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.ชนะสงคราม แล้วเพื่อให้ ดำเนิน คดีกับแกนนำทั้ง 5 คน ประกอบด้วย นายรังสิมันต์ โรม,นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์,นายเอกชัย หงส์กังวาน, นายปิยรัตน์ จงเทพ, น.ส. ณัฏฐา มหัทธนา โดยมีข้อหาร่วมกันชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ ใดๆที่มีจำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปโดยไม่ได้รับอนุญาตจากหัวหน้า คสช.

พล.ต.ปิยพงศ์ กล่าวว่า กลุ่มผู้ชุมนุมที่จะเคลื่อนขบวนจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถึงทำเนียบรัฐบาล ขอให้ทำความเข้าใจว่าขณะนี้ทุกฝ่ายได้ดำเนินการให้มีการเลือกตั้งตามโรดแมป ในเดือนกุมภาพันธ์ 2562
สำหรับกิจกรรมที่กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ตั้งใจได้จัดขึ้น คสช.เข้าใจว่าทุกคนต้องการจัดกิจกรรมเพื่อแสดงออกทางการเมืองและในกิจกรรมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้จัดกำลังและมีแผนงานรองรับเพื่ออำนวยความสะดวกให้การจัดกิจกรรมเป็นไปอย่างมีระเบียบ และมีการป้องกันผู้ที่ไม่หวังดีที่จะเข้ามาสร้างสถานการณ์ ก่อความวุ่นวายให้เกิดขึ้นได้

ซึ่งการเคลื่อนขบวนนั้นอาจส่งผลให้ประชาชนส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบกับการจราจรได้ ทั้งนี้ขอความร่วมมือผู้ชุมนุมให้ปฏิบัติตามและให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ เพื่อให้การชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และราบรื่นทั้งในส่วนของผู้ชุมนุมและประชาชนจะต้องไม่มีการกระทบกระทั่งกันเกิดขึ้น ไม่มีการปลุกเร้าให้เกิดความเกลียดชังต่อกัน

เมื่อถึงเวลาการเลือกตั้ง ได้รัฐบาลใหม่ คสช. และรัฐบาลก็จะส่งมอบอำนาจการบริหารประเทศไปสู่รัฐบาลใหม่กลไกต่างๆ ก็เป็นไปตามเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนในการจัดกิจกรรมซึ่งในวันนี้ได้ใช้กรอบกฎหมายปกติและมอบ ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ดำเนินการโดยยึดหลักการอำนวยความสะดวกดูแลความปลอดภัย