เกาหลีจ่อออกมาตรการ คนไทยลงทะเบียน ETA ขอเข้าประเทศ คัดกรองคนมาเที่ยวจริง
เมื่อวันที่ 30 เม.ย. นายชาตรี อรรจนานันท์ อธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศและนายอิน ชิก อูอธิบดีกรมกิจการคนเกาหลีใต้โพ้นทะเลและการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) เป็นประธานร่วมในการประชุมหารือด้านการกงสุลไทย – สาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ 4 ที่กรุงโซล ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐเกาหลีเป็นเจ้าภาพ โดยฝ่ายไทยมีผู้แทนจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ได้แก่ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ฝ่ายแรงงานประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล กรมการจัดหางาน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ทั้งนี้ กรอบความร่วมมือด้านการกงสุลของทั้งสองประเทศเป็นกลไกการส่งเสริมความร่วมมือทั้งในด้านการตรวจคนเข้าเมือง และการคุ้มครองและดูแลคนชาติ
ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่า ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ในระดับประชาชนอยู่ในระดับที่ดี โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้เดินทางมาไทยประมาณ 1.5 ล้านคนต่อปี และนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปเกาหลีใต้ประมาณ 5 แสนคนต่อปี และมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นอีก ซึ่งสะท้อนถึงความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับสาธารณรัฐเกาหลีที่ใกล้ชิดและดำเนินมาครบ 60 ปีแล้ว
ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการคัดกรองบุคคลตั้งแต่ต้นทางเพื่อคุ้มครองนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวโดยสุจริต เนื่องจากปัจจุบันมีจำนวนคนไทยที่ลักลอบทำงานอย่างผิดกฎหมายอยู่ในสาธารณรัฐเกาหลีเป็นจำนวนมากประมาณ 140,000 คน โดยภายหลังสิ้นสุดการดำเนินมาตรการผ่อนปรนของรัฐบาลสาธารณรัฐเกาหลีที่ให้แรงงานต่างชาติที่ลักลอบทำงานผิดกฎหมายเดินทางกลับประเทศโดยไม่ถูกขึ้นบัญชีเป็นผู้กระทำผิด ระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 2561 – 31 มี.ค. 2562 ยังมีคนไทยที่อยู่อย่างผิดกฎหมายในสาธารณรัฐเกาหลีถึงร้อยละ 39 ของจำนวนคนต่างชาติทั้งหมดที่พำนักอยู่อย่างผิดกฎหมายในสาธารณรัฐเกาหลี โดยสาธารณรัฐเกาหลีก็จะบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการลักลอบเข้ามาทำงานและนำคนเข้ามาทำงานผิดกฎหมายให้มากขึ้น
รายงานจากกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า ไทยได้ขอให้สาธารณรัฐเกาหลีอำนวยความสะดวกการตรวจคนเข้าเมืองแก่คนไทยที่เดินทางไปสาธารณรัฐเกาหลีตามแนวปฏิบัติสากล ซึ่งสาธารณรัฐเกาหลีอาจมีการทบทวนการพิจารณาใช้ระบบ Electronic Travel Authorization (ETA) สำหรับคนไทยที่ประสงค์จะเดินทางไปสาธารณรัฐเกาหลีเพื่อการท่องเที่ยว โดยระบบดังกล่าวนี้จะช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพของการคัดกรองคนเข้าเมืองได้ดียิ่งขึ้น และป้องกันไม่ให้กลุ่มคนไทยที่เดินทางเพื่อการท่องเที่ยวอย่างแท้จริงถูกปฏิเสธการเข้าเมือง
ขอบคุณ ข่าวสด