ข่าวท้องถิ่น ข่าวบันเทิงเงินบริจาค “กิตติ ดัสกร” หายเกือบแสน “ไทด์ เอกพันธุ์” เข้าแจ้งความ November 10, 2017November 10, 2017 Share0 เงินบริจาค “กิตติ ดัสกร” หายเกือบแสน!! ด้าน “ไทด์ เอกพันธุ์” เข้าแจ้งความ ก่อนหาสาเหตุที่แท้จริงเจอ ก็ทำตำรวจมึนทั้งโรงพัก เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 10 พ.ย.60 ที่สภ..ไทรน้อย จ.นนทบุรี นายเอกพันธุ์ บรรลือฤทธิ์ อายุ 45 ปี นักแสดงชื่อดัง เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.พันธ์พัฒน์ เศษบุบผา ร้อยเวร สภ.ไทรน้อย หลังจากตรวจสอบบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาเมืองปทุมธานี เลขที่บัญชี 2301495422 ชื่อบัญชี นายกิตติ กลิ่นเกลี้ยง ได้มีบุคคลถอนเงินออกจากบัญชี จำนวน 80,000 บาท ไปโดยไม่ทราบสาเหตุและไม่ทราบวัตถุประสงค์ในการนำเงินออกไปใช้ เนื่องจากเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินที่ประชาชนบริจาคให้นายกิตติ กลิ่นเกลี้ยง ซึ่งมีอาการป่วย จุงมีความประสงค์ที่จะให้ตรวจสอบว่าผู้ใดเป็นผู้ถอนเงินและนำไปใช้อะไร จากการสอบสวนนางสาวประสิประภา รุ่งทวีสุข อายุ 28 ปี อดีตภรรยา ทราบว่าตนยืนยันว่าเป็นคนเบิกเงินตรงนี้ไปจริง เอาไปให้ผู้ชายคนหนึ่งใช้หนี้ที่เคยโอนเงินมาให้ตน เป็นเพื่อนจากเฟสบุ้คตนไม่สามารถระบุชื่อเขาได้เนื่องจากเกรงว่าเขาจะเดือดร้อน ส่วนเงินตรงนี้ตนจะหามาผ่อนคืนให้เดือนละ 5,000-10,000 บาท โดยจะไปทำงานที่หัวหิน ส่วนเงินที่เอาไปเป็นค่าเล่าเรียนลูก และค่าใช้จ่ายประจำวัน ตนยอมรับผิดคนเดียวถ้าจะดำเนินคดี ด้านนายเอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ กล่าวว่า เงินในบัญชีของนายกิตติ ถูกเบิกออกไปครั้งละ 20,000 บาทจำนวน 4 ครั้ง รวมเป็นเงิน 80,000 บาท แต่ไม่รู้ว่าเอาเงินไปทำอะไร แต่นางสาวคริสตี้บอกว่านายกิตติอนุญาติให้เบิกออกไปลงทุน และมีการอ้างว่ามีผู้ชายที่หลงรัก นางสาวคริสตี้โอนเงินมาให้ แต่จากการตรวจสอบไม่มีการโอนเงินจำนวนดังกล่าวเข้ามา มีแต่เงินที่ประชาชนโอนมาเพื่อช่วยเหลือนายกิตติเพื่อเป็นการรักษาอาการป่วยเท่านั้น ทางตนจึงคิดว่าเงินจำนวนนี้ อนาคตข้างหน้าอาจถูกนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ของผู้บริจาคและอาจทำให้นายกิตติไม่ได้รักษาตัว จึงได้แจ้งความบันทึกไว้เป็นหลักฐานเพื่อฝห้ น.ส.คริสตี้นำเงินกลับมาคืนเหมือนเดิม และเงินในส่วนที่บริจาคนี้จะให้ผู้ที่เกี่ยวข้องดูแลนายกิตติเป็นผู้ดูแลบัญชีต่อไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาใดๆ เนื่องจากต้องรอสอบปากคำ นายกิตติ เจ้าของบัญชีก่อนว่ายินยอมหรือไม่ เนื่องจากทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งและมีบุตรด้วยกัน ใช้ชีวิตด้วยกัน ต้องอยู่กับผู้เสียหายว่าจะประสงค์ดำเนินคดีหรือไม่ Source: T-News