ศาลเยาวชนฯ แต่งตั้งให้ป้าเป็นผู้ปกครองลูกสาว “รองตี๋” หลังสูญเสียผู้ปกครองเพราะ “เสี่ยรถเบนซ์” เมาแล้วขับ ยังลุ้นอัยการอาญาสั่งฟ้องคดีในเดือนมิถุนายนนี้
ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง นัดไต่สวนคำร้องที่ น.ส.ขนิษฐา พี่สาวภรรยาของ พ.ต.ท.จตุพร งามสุชวิชชากุล หรือ รองตี๋ รอง ผกก.สอบสวน กก.2 บก.ป. ซึ่งทั้ง รองตี๋และภรรยาได้เสียชีวิตลงจากเหตุการณ์ที่ นายสมชาย อายุ 57 ปี นักธุรกิจ เมาแล้วขับรถเบนซ์สปอร์ตชนประสานงา ได้ยื่นคำร้องต่อศาลเยาวชนฯ เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2562 ขอตั้งผู้ปกครองดูแลบุตรสาว 2 คนของรองตี๋ กรณีที่ผู้เยาว์นั้นบิดา-มารดา ได้เสียชีวิตลง
โดยในคำร้องดังกล่าว ระบุว่า บุตรสาวคนเล็กรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนบุตรสาวคนโตกำลังศึกษาในโครงการนักเรียนไทยกับสหรัฐอเมริกาและต้องกลับมาศึกษาต่อในโรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ที่กรุงเทพฯ ซึ่งการยื่นคำร้องนี้ผู้เยาว์ทั้งสองและญาติของ 2 ฝ่ายก็ยินดีและเต็มใจให้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอเป็นผู้ปกครองผู้เยาว์ทั้งสองแทนบิดา-มารดาที่ถึงแก่กรรมแล้ว เนื่องจากญาติฝ่ายบิดาอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ ญาติฝ่ายมารดาอยู่ จ.นครราชสีมา จึงไม่สะดวกที่จะช่วยเหลือปกครองดูแลผู้เยาว์ทั้งสอง
โดยผู้ร้องมีอาชีพการงานเป็นหลักแหล่งอยู่ที่กรุงเทพฯ จึงขอให้ศาลพิจารณาไต่สวนคำร้องและมีคำสั่งแต่งตั้งให้เป็นผู้ปกครองของผู้เยาว์ทั้งสองต่อไป โดยขอให้ศาลมีคำสั่งนัดไต่สวนโดยเร็ว เนื่องจากขณะนี้พนักงานอัยการจังหวัดตลิ่งชัน ได้รับสำนวนการสอบสวนจากพนักงานสอบสวนแล้ว กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาสั่งฟ้องผู้ที่ก่อเหตุที่ทำให้บิดา-มารดาผู้เยาว์ถึงแก่กรรม หากผู้เยาว์ได้มีโอกาสเข้าไปในคดีอาญาทันเวลาก่อนที่ศาลชั้นต้นในคดีดังกล่าวจะพิพากษา ผู้เยาว์จะได้ไม่เสียโอกาสมีผู้แทนในการเจรจาค่าเสียหายทางแพ่งกับผู้ก่อเหตุ
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานของผู้ร้องแล้ว เห็นว่า บิดา-มารดาของผู้เยาว์ทั้งสองถึงแก่ความตายแล้ว ผู้ร้องเป็นป้า เป็นผู้ดูแลผู้เยาว์มาตลอดจึงถือว่าเป็นญาติสนิท และไม่เป็นบุคคลต้องห้ามที่จะให้เป็นผู้ปกครอง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1587 ดังนั้นจึงมีคำสั่งให้ตั้ง น.ส.ขนิษฐา พี่สาวภรรยาของรองตี๋ เป็นผู้ปกครอง ผู้เยาว์ทั้งสอง และให้ตั้ง ผอ.สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนกรุงเทพฯ เป็นผู้กำกับการใช้อำนาจปกครองในส่วนที่เกี่ยวกับทรัพย์สินของผู้เยาว์
ขณะที่ความคืบหน้าในเรื่องคดีนั้น ขณะนี้คณะทำงานอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี 5 รวม 3 คน กำลังพิจารณาใกล้ที่จะมีความเห็นทางคดีอย่างใดอย่างหนึ่งได้ภายในสัปดาห์นี้สิ้นเดือน พ.ค.นี้ และเนื่องจากเป็นคดีสำคัญ ก็จะต้องเสนอความเห็นนั้นไปยังผู้บังคับบัญชาตามลำดับ ทั้งอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญาธนบุรี 5 และอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี ให้พิจารณากลั่นกรองชี้ขาดด้วย
แต่ระหว่างนี้จะครบกำหนดฝากขัง นายสมชาย ผัดที่ 4 ในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ ดังนั้นอัยการเตรียมจะยื่นขอร้องขอฝากขังผัดที่ 5 ต่อศาลจังหวัดตลิ่งชันไปก่อนอีก 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม ถึง 11 มิถุนายนนี้ ระหว่างที่ต้องรอการสรุปความเห็นชี้ขาดตามลำดับชั้นดังกล่าว ซึ่งคาดว่าอัยการจะมีความเห็นชี้ขาดทางคดีได้ในเดือนมิถุนายนนี้ โดยคดีนี้สามารถยื่นฝากขังผู้ต้องหาได้สูงสุด 7 ผลัดๆ ละ 12 วัน รวมทั้งสิ้น 84 วัน
โดยระหว่างการฝากขังที่ผ่านมา นายสมชาย ได้ทำการประกันตัวไปด้วยเงินสด 200,000 บาท ตั้งแต่การฝากขังผัดแรกเมื่อวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา ขณะที่ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทนายความของนายสมชาย ระบุว่า ทางผู้ต้องหา พร้อมจะเยียวยาทางแพ่งครอบครัวผู้เสียชีวิต ด้วยการชดใช้ค่าเสียหายราว 45 ล้านบาท
ขอบคุณ Sanook