ชายวัย 39 ชาวพัทลุง ตายจากพิษสุนัขบ้า เป็นรายที่ 7 ของประเทศ พบโดนข่วนไม่ได้ฉีดวัคซีน!
เมื่อวันที่ 27 มี.ค. นพ.ธนิศ เสริมแก้ว นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพัทลุง เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตที่ต้องสังสัยว่าเป็นโรคพิษสุนัขบ้า 1 ราย เป็นชายอายุ 39 ปี อยู่ในพื้นที่ อ.บางแก้ว จ.พัทลุง เข้ารับการรักษาที่รพ.พัทลุงเมื่อวันที่ 23 มี.ค. มีอาการคอแข็ง กลืนลำบาก กลัวลม ซึ่งเป็นอาการที่เข้าได้กับอาการของโรคพิษสุนัขบ้า อีกทั้งยังมีประวัติว่าถูกลูกสุนัขที่เลี้ยงไว้ข่วนเมื่อประมาณ 1 เดือน เศษแต่ไม่ได้มารับวัคซีน ทั้งนี้หลังผู้ป่วยเข้ามารับการรักษาที่ รพ.แล้วก็ได้ให้วัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน แต่ระหว่างการรักษาอาการทรุด หายใจลำบากและเสียชีวิตในวันที่ 25 มี.ค. ที่ผ่านมา ทางรพ.จึงได้เก็บเนื้อสมองส่งตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
นพ.ธนิศ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาจังหวัดพัทลุงเคยมีคนเสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้านานมาแล้วตั้งแต่ปี 2554 แล้วไม่พบอีกเลย จนกระทั่งรายนี้ที่ต้องสงสัยว่าเสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้า และขณะนี้มีการติดตามญาติ และเพื่อนของผู้เสียชีวิตที่อาจจะมีการสัมผัสโรคประมาณ 20 คน เพื่อมารับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งมีบางส่วนได้รับไปแล้ว บางส่วนยังไม่ได้รับก็พยายามตามให้ครบ ส่วนเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่มีการสัมผัสโรคกว่า 30 คน นั้นได้รับวัคซีนครบแล้ว
ด้านแหล่งข่าวจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ให้ข้อมูลว่า จากการตรวจสอบตัวอย่างเนื้อสมองของผู้เสียชีวิตพบว่าเกิดจากเชื้อพิษสุนัขบ้าจริงๆ
ผู้สื่อข่าวรายงาน ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตยืนยันด้วยโรค พิษสุนัขบ้า ตั้งแต่วันที่ 1 มค.- 27 มี.ค. รวม 7 ราย จากจังหวัด สุรินทร์ ตรัง สงขลา นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ บุรีรัมย์ และเคสล่าสุดที่ จ. พัทลุง ทั้งนี้ไม่นับรวมเคสเด็กชาวเมียนมาที่ถูกกัดจากประเทศเมียนมาก่อนเข้ามารักษาที่รพ.พบพระ จ.ตาก และเสียชีวิตในเวลาต่อมา เพราะฉะนั้นเท่ากับว่าเพียงแค่ 3 เดือน ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อพิษสุนัขบ้าแล้ว 7 ราย ขณะที่ปี 2560 ตลอดทั้งปีมีผู้เสียชีวิต 11 ราย