แฉ‘ไอ้เอ็ม’มโนเป็นโจ๊กเกอร์ ชอบทารุณโหด-ซาดิสต์ เคยควักตา-ปาดคอแฟนสาว
เมื่อวันที่ 23 เม.ย. ที่โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร.และโฆษก ตร. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ เข้าเยี่ยมอาการและตรวจสอบสภาพจิตใจของหญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายที่ถูกนายชัยชนะ หรือเอ็ม แฟนหนุ่มทำร้ายร่างกายพร้อมถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ที่ผ่านมา
พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า จากการสอบปากคำของผู้เสียหายทราบว่า ก่อนหน้านี้ฝ่ายหญิงมีแฟนแล้วเลิกกัน ก่อนจะมาคบกับนายชัยชนะเป็นเวลา 8 เดือน โดยพฤติการณ์ของนายชัยชนะเวลาที่จะทำร้ายแฟนสาว มีลักษณะเสพยาเสพติดและเกิดอาการเมายาเสพติด มีภาพหลอน ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรลงไป ในขณะทำเหมือนไม่ใช่ตัวเอง รำพึงรำพันว่าตัวเองเป็นโจ๊กเกอร์ ส่วนแฟนสาวเป็นแฟนโจ๊กเกอร์ มีลักษณะเป็นบุคคลซาดิสต์ ชอบทำร้ายทรมานผู้อื่น และยังเป็นโรคหวาดระแวง ภาพในหัวจินตนาการว่าแฟนมีคนอื่น ซึ่งไม่เป็นความจริง เมื่อเกิดความหวาดระแวง นายชัยชนะจะลงโทษแฟนสาวด้วยการทำร้ายร่างกาย โดยแฟนสาวก็ไม่รู้ว่าจะเล่าเรื่องอะไรเพราะไม่เป็นความจริง จึงถูกทำร้ายร่างกายหนักขึ้นเรื่อยๆ
“นายชัยชนะทำร้ายร่างกายแฟนสาวมาแล้ว 6 ครั้ง ช่วงก่อนเดือนเมษายนถึงปัจจุบัน ทำร้ายรุนแรงเช่นนี้มาแล้ว 1 ครั้ง ครั้งล่าสุดทำร้ายประมาณ 6-8 ชั่วโมง ในรูปแบบต่างๆ เช่น เอาที่หนีบผมที่มีความร้อนสูงมาจี้ตามร่างกาย ใช้มีดปาดคอให้ถึงแก่ความตาย แต่โชคดีปาดไม่เข้า ใช้ขาตั้งกล้องฟาดตามลำตัว ใช้สายไฟลอกอีกด้านเชื่อมต่อกับไฟและจี้ตามร่างกาย มีเจตนาจะเอาลูกตาทั้ง 2 ข้างออก แต่เอาออกไม่ได้ ขณะนี้ตาทั้งสองข้างเขียว มีรอยมีดที่ตา มีรอยมีดจิ้มที่หน้าผากและคอ ตามร่างกายมีรอยแผลเป็นคล้ายถูกฟาดด้วยสายไฟ เห็นได้ชัดว่ามีความพยายามเจตนาฆ่า ร่องรอยการถูกทำร้ายยังไม่หายดีเป็นแผลฉกรรจ์ โดยแผลจากการทำร้ายไม่ได้รับการรักษา ปล่อยให้หายไปตามกาลเวลา โดยสาเหตุที่ฝ่ายหญิงทน เพราะรักฝ่ายชายมาก ในขณะนี้ก็ต้องชั่งใจว่าระหว่างชีวิตที่ปลอดภัยและความรัก จะเลือกอะไร”
“นายชัยชนะมีความเชี่ยวชาญสอนเทรดฟอเร็กซ์ หรือสอนลงทุนแลกเปลี่ยนเงิน จึงมีคนมาสมัครเป็นนักเรียน 500 คน จ่ายคนละ 15,000 บาท ซึ่งบุคคลเหล่านี้ไม่ได้รับการสอนจากนายชัยชนะ จึงจะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงด้วย ตอนก่อเหตุนายชัยชนะถ่ายทอดสดการทำร้ายแฟนสาว เพื่อเป็นข้ออ้างว่าไม่สบายใจที่แฟนสาวนอกใจ และโกหกว่าแฟนสาวยักยอกเงินไป 15,000,000 บาท ซึ่งไม่เป็นความจริง เป็นเพียงข้ออ้างที่หาแพะมารับโทษเท่านั้น ในส่วนของการเยียวยา จะหาที่พักที่ปลอดภัยให้กับผู้เสียหาย และจะไม่เยียวยาผู้เสียหายอย่างเดียว ต้องเยียวยาทางครอบครัวของผู้เสียหายด้วย”