สรุปฟีเจอร์ใหม่ของ Android P (Android 9) ระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ที่ฉลาดยิ่งกว่าเดิม!
เมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ทาง Google ได้จัดงานประชุมนักพัฒนาประจำปีอย่าง Google I/O ขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นงานอีเวนท์ที่ใหญ่สำหรับชาว Android เลยทีเดียว เพราะภายในงานมีการประกาศถึงฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ทาง Google กำลังพัฒนา รวมไปถึงการอัปเดตข่าวสารล่าสุดของระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชันใหม่อย่าง Android P (Android 9.0) ให้รับทราบกันด้วย
ซึ่งภายในวันนี้ทางทีมงานจึงได้รวบรวมฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่อยู่บน Android 9.0 มาอัปเดตให้ทุกท่านได้รับชมกัน โดยจะมีอะไรเพิ่มเข้ามาใหม่บ้างนั้น เราไปดูกันเลยครับ
Adaptive Battery
จริงๆ แล้ว ระบบปฏิบัติการ Android มีการปรับปรุงในเรื่องของการจัดการประสิทธิภาพแบตเตอรี่อย่างต่อเนื่อง แต่ใน Android P นั้นได้มีการเพิ่มฟีเจอร์ Adaptive Battery เข้ามาเพื่อช่วยตรวจสอบพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้แต่ละคน ว่ามีการใช้แอปพลิเคชันไหนบ่อยบ้าง จากนั้นจะนำไปจัดสรรพลังงานให้เหมาะสมกับแอปพลิเคชันนั้นๆ ส่งผลให้ช่วยลดภาระการทำงานของ CPU น้อยลงกว่าเดิมถึง 30% ซึ่งน่าจะทำให้อาการแบตไหลลดน้อยลงนั่นเอง
New System Navigation
ในยุคที่สมาร์ทโฟนเริ่มปรับไปใช้ดีไซน์หน้าจอแบบเต็มพื้นที่ หรือ FullView กันมากขึ้น ทำให้พื้นที่ส่วนล่างไม่มีปุ่มควบคุมแบบ Physical อีกต่อไป ทำให้หลายๆ ค่ายหันไปใช้ปุ่มควบคุมแบบสัมผัสบนหน้าจอแบบ On-Screen แทน แต่บน Android P นั้น ทาง Google ได้มีการคิดค้นวิธีการควบคุมแบบใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อสมาร์ทโฟนจอ FullView โดยเฉพาะ ด้วยการใช้นิ้วลากจากบริเวณแถบที่อยู่ด้านล่างคล้ายกับ iPhone X แทน พร้อมทั้งยังได้ปรับเปลี่ยนหน้า UI ของ Recent App ให้แสดงแอปพลิเคชันที่ทำงานอยู่เบื้องหลังแบบแนวตั้งแล้ว
Manual Rotation
ฟังก์ชันเล็กๆ อย่างการหมุนหน้าจออัตโนมัติ (Auto Rotate) ของ Android ก็มีการพัฒนาให้ใช้ง่ายขึ้น โดยผู้ใช้สามารถกดหมุนหน้าจอได้เองแล้วผ่านการกดปุ่มไอคอนที่บริเวณแถบควบคุม
App Actions
ฟังก์ชัน App Actions ของ Android P คือการนำระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้ และจะทำการแนะนำคำสั่งต่างๆ (Action) ให้แก่ผู้ใช้แบบอัตโนมัติบนหน้า Launcher หรือ Google Assistant ยกตัวอย่างเช่น หากผู้ใช้ชอบอ่านข่าวบนรถไฟบ่อยๆ ตัว Android P ก็จะเพิ่มปุ่มกดอ่านข่าวขึ้นมาบนหน้าจอให้แบบอัตโนมัติเมื่อผู้ใช้ขึ้นรถไฟแล้ว หรือหากเราค้นหาภาพยนตร์สักเรื่องบน Google Search ตัวระบบก็จะเพิ่มปุ่ม Action สำหรับกดดูเทรลเลอร์ หรือจองตั๋วหนังให้ทันที เป็นต้น
Slices
Slices เป็นอีกหนึ่งฟังก์ชันที่เข้ามาช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้งานของเราเช่นเดียวกับ App Actions แต่จะถูกย่อยออกมาเฉพาะปุ่มคำสั่ง เพื่อให้ผู้ใช้สั่งงานได้ง่ายขึ้น ยกตัวอย่างเช่น หากผู้ใช้กดค้นหาแอปพลิเคชัน Lyft (บริการเรียกรถแท็กซี่ในสหรัฐฯ) บนตัวเครื่อง ตัวระบบก็จะแสดงไอคอนแอปพลิเคชัน Lyft พร้อมกับปุ่มเรียกรถกลับบ้าน หรือปุ่มเรียกรถไปออฟฟิศ พร้อมกับแสดงระยะทาง ค่าโดยสาร รวมไปถึงระยะเวลาเดินทางให้แบบอัตโนมัติ ทำให้เราไม่จำเป็นต้องกดเข้าไปในแอปพลิเคชันเพื่อเรียกรถเหมือนแต่ก่อนนั่นเอง
Digital Wellbeing
Digital Wellbeing เป็นโปรเจ็กต์ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยควบคุมพฤติกรรมการใช้งานสมาร์ทโฟนในยุคปัจจุบัน โดยตัวระบบจะแสดงพฤติกรรมการใช้งานโทรศัพท์ของผู้ใช้แต่ละคน โดยสามารถแสดงได้ว่า เราใช้เวลาอยู่กับแอปพลิเคชันเป็นเวลากี่ชั่วโมง ใช้แอปพลิเคชันไหนบ่อยเป็นพิเศษ หรือทำการปลดล็อกตัวเครื่องทั้งหมดกี่ครั้งในแต่ละวัน เพื่อให้ผู้ใช้สามารถตั้งเวลาเพื่อจำกัดการใช้แอปพลิเคชันนั้นๆ ในแต่ละวันได้ รวมไปถึงการตั้งค่าการแจ้งเตือนให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงเวลา ซึ่งนับว่าเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยลดอาการติดสมาร์ทโฟนนั่นเอง
อย่างไรก็ดี ฟีเจอร์ข้างต้นก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของลูกเล่นใหม่ๆ ที่มีอยู่บน Android P เท่านั้น รวมทั้งในขณะนี้ Android P ยังเป็นระบบปฏิบัติการที่อยู่ในสถานะ Beta ทำให้ในอนาคตอาจมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้ามาก่อนที่จะปล่อยเป็นตัวเต็มครับ