แถลงการณ์ กรณีคุณหมอขับรถชน รปภ.ที่กระทรวงสาธารณสุข เผยวันเกิดเหตุ มีอาการคล้ายคนเมา
จากเหตุการณ์ที่ทางเพจได้โพสต์คลิปนาทีเกิดเหตุ รถเก๋งพุ่งชน รปภ.หนุ่มรายหนึ่ง แล้วขับรถทับซ้ำจนร่างของ รปภ.หนุ่มรายนั้นเข้าไปติดใต้ท้องรถ และถูกลากออกไปไกลหลายเมตร ซึ่งทางเพจได้ระบุข้อความไว้ว่า ” เหตุเกิดเมื่อคืน คนสาธารณสุขขับรถทับยามปางตาย.
จากการเยี่ยม รปภ.สมชาย ยามดี ที่ รพ.พระนั่งเกล้า ห้อง ICU จัดให้อยู่ห้องเดี่ยว อาการ มีเลือดออกสมอง เล็กน้อย กระดูกโหนกแก้มและกรามด้านซ้ายแตก แพทย์รอดูอาการทางสมองก่อน 3 วันหากสมองไม่บวมไม่ต้องผ่าตัด ผู้ป่วยยังไม่รู้สึกตัว ดิ้นบางครั้งมัดมือเท้าไว้ให้อ๊อกซิเจนทางปากใบหน้าซีกซ้ายบวม หลังจากอาการทางสมองดีขึ้นจะทำการผ่าตัดโหนกแก้มและกราม ตาด้านซ้ายซ้ำรอหมอตามาดูวันจันทร์ก่อนว่ามีผลกับตาด้วยหรือไม่ ให้ยาแก้อักเสบยาฆ่าเชื้อ ยาละลายเลือดทางสายน้ำเกลือ “
ต่อมาทางผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยัง โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จนทราบว่าชายที่ได้รับบาดเจ็บคนดังกล่าวคือ นายสมชาย ยามดี (นายนัท) เป็นเจ้าหน้าที่ รปภ.ของกระทรวงสาธารณสุข ได้ถูกรถเก๋ง ฮอนด้า สีขาว หมายเลขทะเบียน 2กฒ 7552 กทม. วิ่งมาด้วยความเร็ว จากปากทางโรงพยาบาลบำราศนราดูร มุ่งหน้าเข้ากระทรวงสาธารณสุข พุ่งเข้าชน นายสมชาย จนร่างไปอยู่ใต้ท้องรถ ขณะกำลังนำกุญแจมาคล้องปิดประตู 2 ของโรงพยาบาล เนื่องจากเป็นเวลาปิดทำการแล้ว ก่อนลากร่างนายสมชายไปไกลกว่า 15 เมตร จนอาการสาหัส จากการสอบถามพยานที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า คนขับรถเก๋งคันดังกล่าวนั้น ได้เปิดประตูลงจากรถด้วยสภาพเดินโซเซ ใบหน้าแดงกล่ำคล้ายคนเมาสุรา
ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 13 พ.ย. 60 ที่หน้าหออภิบาลระบบทางเดินหายใจศัลยกรรม ชั้น 15 โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ได้มี พญ.พรรณพิมล รอง ปลัดสธ.และโฆษก พร้อมด้วย นพ.สกล สุขพรหม รองผอ.ฝ่ายการแพทย์ รพ.พระนั่งเกล้า และ นพ.ยอร์น จิระนคร ผู้ก่อเหตุขับรถชนนายสมชาย เจ้าหน้าที่รปภ.ได้รับบาดเจ็บสาหัสให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนถึงกรณีอุบัติเหตุดังกล่าว พญ.พรรณพิมล เปิดเผยว่า วันนี้ได้พาผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาชี้แจงรายละเอียดข้อเท็จจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้น เนื่องจากมีการนำเสนอไปหลายทิศทางซึ่งขัดแย้งกับความเป็นจริง และอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้น
ทาง สธ.ได้รับแจ้งเรื่องดังกล่าวตั้งแต่วันที่เกิดเหตุแล้ว ต่อมา นพ.ยอร์น อายุ 54 ปี แพทย์สาธารณสุขนิเวศน์ ผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวขณะเกิดเหตุเปิดเผยว่า ขอยอมรับในสิ่งที่ตนได้กระทำและเกิดขึ้น และเป็นเรื่องที่ไม่ได้ตั้งใจจะให้เกิดขึ้นเลย ส่วนรายละเอียดต่างๆในขณะเกิดเหตุ ตนขอไม่เปิดเผยและได้ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้ว ส่วนคนเจ็บนั้น ตัวผมเองยืนยันและพร้อมจะรับผิดชอบดูแลทุกอย่างกับสิ่งที่เกิดขึ้น ส่วนรายละเอียดตนขอพูดคุยกับญาติของคนเจ็บก่อน และรู้สึกเสียใจกับเรื่องนี้และต้องขอโทษกับญาติคนเจ็บ ตนไม่ได้คิดหลบหนีหรือปฏิเสธ เพราะเชื่อว่า การออกมายอมรับผิดเป็นสิ่งที่ถูกต้องและสมควรทำ
ต่อมาทางผู้สื่อข่าวได้ถามว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีการดื่มแอลกอฮอล์มาด้วยหรือไม่ นพ.ยอร์น กล่าวว่า ตรงนี้ไม่ขอตอบได้ให้รายละเอียดข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้ว นพ.ยอร์น ยังกล่าวเสริมอีกว่า ตนยืนยังอีกอย่างว่า ขณะเกิดเหตุตนไม่ได้หลบหนีและได้ลงไปช่วยเหลือคนเจ็บ ถ้าผมอธิบายไปก็เหมือนเป็นการแก้ตัวแต่ขณะเกิดเหตุนั้นประตูดังกล่าวปิดตอนสอง 2 ทุ่ม ซึ่งตอนนั้นตนมองไม่เห็นเนื่องจากทางมืดมากและเห็นรถคันข้างหน้าขับเข้าไปก่อนแล้ว ตนจึงขับตามหลังเข้าไป
พอแอร์เเบล็คทำงาน (airbag) ตนจึงรู้ตัวและหยุดรถ และในขณะนั้นตนก็ขับรถไม่เร็ว คิดว่าตนเองขับชนประตูรั้วเหล็กอย่างเดียว ซึ่งขณะนั้นได้มีคนตะโกนบอกว่า ตนขับรถชนทับคนอยู่ใต้ท้องรถยนต์ ตนจึงรู้ตัว เมื่อถามว่าพอรู้ว่าชนคนแล้ว ทำอย่างไรต่อ นพ.ยอร์น กล่าวว่า ตนได้ทำการหยุดรถและทำการช่วยคนเจ็บ และก็มีรถฉุกเฉินของโรงพยาบาลตามมา
ช่วยแต่ตนไม่ได้เป็นคนโทรแจ้ง ขณะที่ นพ.สกล สุขพรหม รองผอ.ฝ่ายการแพทย์ รพ.พระนั่งเกล้า เปิดเผยว่า วันที่เกิดเหตุพบว่าคนไข้มีเลือดออกบางๆ และมีภาวะสมองบวม โดยต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ หลังจากนั้นเมื่อ วันที่ 11 พ.ย. 60 ที่ผ่านมา ได้มีการสังเกตุอาการพบว่าผู้ป่วยมีอาการทรุดลง เวลาประมาณ 21.00 น.เมื่อเอ็กซเรย์สมองซ้ำพบว่าเลือดออกในสมองเพิ่มขึ้น จากนั้นได้ทำการผ่าตัดโดยการเปิดกระโหลกเอาก้อนเลือดออก
ทางด้านผู้บาดเจ็บตอนนี้ยังไม่รู้สึกตัว และยังคงต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ แต่อาการตอบสนองดีขึ้นนิดหน่อยหลังการผ่าตัด ส่วนเรื่องบาดแผลกระดูกบริเวณใบหน้าต้องรอให้ภาวะสมองดีขึ้นก่อน จึงจะพิจารณาการรักษาต่อไป อย่างไรก็ตามตอนนี้ยังถือว่าวิกฤตอยู่ ต้องดูอาการแบบใกล้ชิด วิเคราะห์อาการกันวันต่อวัน เนื่องจากยังไม่สามารถหายใจเองได้ ทั้งนี้ทางผู้สื่อข่าวได้ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมยังสภ.เมืองนนทบุรี
ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในคืนที่เกิดเหตุให้การว่า หลังจากเกิดเหตุทางผู้ขับขี่ นพ.ยอร์น ได้เดินทางมาถึงสถานีตำรวจด้วยลักษณะมีอาการคล้ายคนเมาสุราหรือดื่มแอลกอฮอร์มา ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ขอให้ผู้ขับขี่เป่าเช็คระดับปริมาณแอลกอฮอร์ในเลือดด้วยแต่ทางผู้ขับขี่ได้โวยวาย และปฏิเสธทุกขั้นตอนไม่ขอเป่าเครื่องตรวจเช็คปริมาณแอลกอฮอล์แต่อย่างใด Source: Baabin
