(2 มิ.ย.62) ที่ จ.สุพรรณบุรี พ.ต.ท.อดิเรก ขุนจันดี สวป. สภ.ศรีประจันต์ พ.ต.ท.สุเทพ พิกุลขาว สว.สส. และ ร.ต.อ.ไชยา ประเสริฐ รอง สวป. พร้อมกำลังชุดสืบสวนและสายตรวจ ร่วมกันจับกุม นายภาณุพงศ์ อายุ 29 ปี หรือ เต๋า หน้าลาย พร้อมยึดของกลางรถจักรยานยนต์สภาพถูกถอดอุปกรณ์ส่วนควบเหลือแต่ตัวรถ 2 คัน และอุปกรณ์ส่วนควบที่ถูกถอดและงัดอีกจำนวนหนึ่งได้ที่บ้านของผู้ต้องหา โดยผู้ต้องหามีรอยสักทั่วใบหน้าลำตัวและแขนขา สมกับฉายาเต๋าหน้าลาย
สืบเนื่องจากเมื่อคืนวันที่ 31 พ.ค. ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า แมส สีแดง ทะเบียน กมม-426 สุพรรณบุรี ของ นายสมบูรณ์ อายุ 62 ปี ซึ่งจอดไว้ในซอยเล็กข้างวัดยาง หลังเกิดเหตุผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ติดตามจับกุมคนร้ายเพื่อนำรถจักรยานยนต์กลับมาคืน เจ้าหน้าที่จึงระดมกำลังออกสืบสวนหาเบาะแสของคนร้าย และทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุน่าเป็น นายภาณุพงศ์ หรือ ฉายาเต๋า หน้าลาย จึงนำกำลังไปดักซุ่มที่บ้านของผู้ต้องหาซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียวสภาพเป็นบ้านร้างตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 5 ไร่ มีต้นไม้และหญ้าขึ้นรกครึ้มระหว่างที่เจ้าหน้าที่ดักซุ่มอยู่นั้นนายภาณุพงศ์ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันที่ก่อเหตุขโมยไป ขับเข้ามาเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวจับกุม
สอบสวนนายภาณุพงศ์ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นลูกชายคนสุดท้อง ก่อนหน้านี้ครอบครัวของตนมีฐานะดี ครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้ามีความอบอุ่น แต่ตนทำตัวไม่ดี ไม่เชื่อฟังคำสอนของพ่อแม่ ไปคบเพื่อนที่ไม่ดีและติดยาเสพติดอย่างหนัก หลังจากติดยาเสพติดตนได้เข้ามาอาละวาดทำลายข้าวของในบ้านด่าพ่อ ด่าแม่ และคนในครอบครัวจนสุดท้ายไม่มีใครทนอยู่ได้แม้กระทั่งแม่ของตน ต้องหนีไปอยู่ที่อื่น ทิ้งให้ตนอยู่บ้านเพียงคนเดียว และถูกจับติดคุกคดียาเสพติดนับ 10 ครั้ง จากที่ก่อนหน้านี้มีแต่คนรักตนปัจจุบันกลับมีแต่คนเกลียดแม้กระทั่งแม่ ญาติพี่น้อง เมียรักยังไม่สนใจตน
ดังนั้น ตนจึงคิดว่าถ้าตนไปอยู่ในคุกน่าจะดีมีเพื่อนเยอะ มีความสุขดี จึงก่อเหตุขึ้นเพื่อจะได้ถูกตำรวจจับ แต่ไม่ได้มีเจตนาที่จะชำแหละชิ้นส่วนไปขายหรือนำไปทำอย่างอื่นแต่อย่างใด แค่ตนอยากติดคุก ประชดชีวิตอยากให้มารดาและญาติทราบว่า ไม่ว่าจะทำความดีอย่างไร ก็ไม่เคยได้ดี ที่ลงมือขโมยรถก็เพื่ออยากจะเข้าไปอยู่ในคุก อยากติดคุก อยู่ข้างนอกไม่มีคนสนใจดูแลจึงก่อเหตุขึ้น โดยก่อนหน้านี้ตนได้ขโมยรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า เมท สีแดง ทะเบียน 1 กณ-9061 สุพรรณบุรี ที่จอดไว้ข้างธนาคารกรุงเทพ ริมถนนสุพรรณบุรี-ชัยนาท หมู่ 3 ต.ศรีประจันต์ หลังก่อเหตุตนได้นำเข้ามาจอดไว้ในบ้านของตัวเองซึ่งไม่มีคนอยู่แล้วถอดอุปกรณ์ส่วนควบออกแต่ไม่ได้นำไปขายแต่อย่างใด กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับ
นายภาณุพงศ์ ผู้ต้องหายังให้การด้วยอารมณ์ดีว่า ตนรู้ตัวว่าต้องถูกจับแน่จึงได้เตรียมแป้ง เสื้อผ้า ครีม และเงินอีก 32 บาท เพื่อจะเข้าไปอยู่ในคุก เนื่องจากเบื่อชีวิตที่เป็นอยู่ เพราะใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพังไม่มีใครดูแล บิดามารดาก็หนีหายไปหมด ตนเองนั้นมีครอบครัวพร้อมลูกน้อย แต่จู่ๆ เมียรักกลับหนีแอบไปมีชู้ซึ่งเป็นเพื่อนของตน วันนี้ก่อนที่จะถูกจับตนได้เตรียมเติมน้ำมันใส่รถจักรยานยนต์ไว้เต็มถัง พร้อมกับเตรียมมีดปลายแหลม เพื่อจะไปฆ่าชู้ แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบตัวได้ก่อน
ทางด้าน พ.ต.ท.สุเทพ พิกุลขาว สว.สส.สภ.ศรีประจันต์ กล่าวว่าหลังทราบว่ามีคนร้ายก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ในตลาดศรีประจันต์ จึงประสานกับ พ.ต.ท.อดิเรก ขุนจันดี สวป. นำกำลังออกสืบหาเบาะแสของคนร้ายกระทั่งทราบว่าเป็น นายภาณุพงศ์ หรือ ฉายานายเต๋า หน้าลาย ซึ่งพ่อแม่มีฐานะดีแต่ผู้ต้องหาไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเคยถูกจับคดีเสพยาเสพติดถึง 8 ครั้ง ปกติมีอาชีพรับจ้างเข็นผัก รับจ้างสักยันต์ และรับจ้างทั่วไป เวลากลางวันก็จะอาศัยข้าวกลางวันที่วัดยาง ใกล้ตลาดสดเทศบาลศรีประจันต์ทุกวัน โดยเฉพาะหลังเลิกงานมักจะนั่งดื่มเหล้าขาว และเสพยาเสพติดก่อนที่จะก่อเหตุดังกล่าว
จากการสอบสวนและตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ต้องหาไม่มีประวัติเกี่ยวกับคดีลักทรัพย์ มีเพียงเสพยาเสพติดและสาเหตุที่ก่อเหตุก็เพียงแค่ต้องการติดคุก เจ้าหน้าที่จึงนำผู้ต้องหาไปชี้จุดต่างๆภายในบ้านเพื่อถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน หลังเสร็จจากการถ่ายภาพทำแผนเสร็จผู้ต้องหาได้เดินไปถอดกรอบรูปคู่พ่อกับแม่ของผู้ต้องหาที่แขวนไว้ข้างฝายกมือไหว้ก่อนจะนำมากอดไว้พร้อมกับหลั่งน้ำตาแห่งความเสียใจออกมา เจ้าหน้าที่จึงนำผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง พ.ต.ท.วิเชียร ทะน้อม สารวัตรสอบสวน สภ.ศรีประจันต์ ดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน
ขอบคุณ Sanook