แฉพยาบาลสาวไทยในสวีเดน ขโมยรูดบัตรคนชรา
เพจแหม่มโพธิ์ดำ ได้โพสต์ภาพหนังสือพิมพ์ของประเทศสวีเดน โดยระบุว่า คนไทยในสวีเดน ได้ฝากให้ทางเพจเผยแพร่เรื่องราว หลังจากที่ หญิงไทยคนหนึ่ง ไปทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาลดูแลคนชรา ที่ประเทศสวีเดน แล้วไปก่อเหตุ ใช้บัตร ATM และบัตรเงินสดของคนชรา ไปรูดเงิน และซื้อของ เป็นเงินกว่า 325,000 โครนสวีเดน หรือประมาณ 1.3 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ในเนื้อหาข่าวของหนังสือพิมพ์ ไม่ได้ระบุว่าเป็นคนไทย เพียงแต่ระบุว่า เป็นหญิงอายุประมาณ 40 ปี ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยพยาบาลดูแลคนชรา ในเมืองลูดวีก้า ของสวีเดน ลักลอบนำบัตรกดเงินสดของคนชราที่ตนเองดูแลอยู่ ไปซื้อของ และกดเงินไปกว่า 84 ครั้ง รวมเป็นเงินจำนวนดังกล่าว ล่าสุดหญิงรายนี้ (ซึ่งในข่าวไม่ระบุสัญชาติ และชื่อ นามสกุล) ถูกไล่ออกจากงาน และเตรียมจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายของสวีเดนแล้ว
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวยังได้ตรวจสอบไปยัง กลุ่มคนไทยในสวีเดน ที่มีการพูดคุยเรื่องดังกล่าวในเฟซบุ๊กกันอย่างกว้างขวาง หญิงไทยคนหนึ่งซึ่งโพสต์เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวระบุว่า ถึงแม้ว่าในข่าวจะไม่ระบุว่าเป็นคนไทย แต่ในกลุ่มคนไทยด้วยกัน ที่อาศัยในสวีเดนจะทราบดี เพราะมีการพูดกันปากต่อปาก
ในขณะที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กอีกรายก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นอ้างว่า ตนทำงานที่เดียวกับหญิงคนดังกล่าว เท่าที่รู้จักกัน เห็นว่าหญิงคนนี้เป็นคนนิสัยดี ร่าเริงสนุกสนาน เป็นที่รักของทั้งหัวหน้า และเพื่อนร่วมงาน ไม่มีใครคิดว่าจะไปทำเรื่องดังกล่าวได้ ที่สำคัญคือ หญิงสาวคนนี้เพิ่งจะบรรจุเป็นพนักงานประจำได้แค่ 3-4 เดือน หลังทราบเรื่องหัวหน้างานก็เสียใจมาก ซึ่งถึงแม้ว่าทางการจะพยายามปิดข่าว แต่ทุกคนในที่ทำงานจะทราบดีว่าเป็นผู้หญิงคนนี้ เพราะหลังเกิดเรื่องก็หายตัวไป ไม่มาทำงานอีกเลย
นอกจากนี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่อ้างว่าเป็นเพื่อนร่วมงานของหญิงไทยผู้ก่อเหตุ ยังบอกอีกว่า ผู้ช่วยพยาบาลที่ดูแลคนชรา จะมีหน้าที่ไปซื้อของมาให้คนชราที่ตนเองดูแล โดยจะถือบัตรกดเงินสดไปซื้อของ สัปดาห์ละหนึ่งครั้ง คาดว่าเจ้าตัวน่าจะแอบเก็บบัตรไว้เอง แล้วนำไปซื้อของและกดเงินมาใช้เอง จนกระทั่งถูกจับได้
อย่างไรก็ตาม คนไทยอีกคนที่อาศัยอยู่ที่สวีเดนเช่นกัน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ทางข้อความในเฟซบุ๊กว่า ตนก็ติดตามข่าวนี้มาตลอดทั้งสัปดาห์ ทราบดีว่ากลุ่มคนไทยคุยกันเองว่าคนที่ทำเป็นหญิงไทย แต่ก็ไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยัน รวมทั้งกฎหมายของสวีเดนก็จะไม่เปิดเผยรายละเอียดต่างๆของผู้ต้องหาอยู่แล้ว ตนจึงมองว่า การนำเรื่องราวมาแฉไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง เพราะต่อให้เป็นคนไทยจริงๆ ก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายของสวีเดนอยู่แล้ว ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องนำเรื่องมาประจานอย่างนี้
ผู้สื่อข่าวยังสอบถามไปยัง นางสาวบุษฎี สันติพิทักษ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดของเรื่องดังกล่าว แต่ทางกระทรวงการต่างประเทศจะทำการรวบรวมข้อมูลเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป Source: S News