ตำรวจเผยสาเหตุภารโรงผูกคอตายคาโรงเรียน เพราะเครียดคดีข่มขืนนักเรียนหญิง อายุ 14 ปี ในห้องพักภารโรง จนเด็กต้องยาคุมฉุกเฉินในกระเป๋ากระโปรง
กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก เข้าตรวจสอบเหตุ นายทองล้วน อายุ 41 ปี ซึ่งเป็นภารโรงของโรงเรียนแห่งหนึ่ง หมู่ 7 ต.หอกลอง อ.พรหมพิราม ใช้เชือกไนล่อนผูกคอตัวเองเสียชีวิตที่ริมหน้าต่างของอาคารเรียนชั้นประถมศึกษา พร้อมทั้งเขียนจดหมายลาตายทิ้งไว้ให้พี่สาวช่วยดูแลลูกชาย 2 คน
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (4 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 4 ก.ค. พ.ต.ท.สมเกียรติ หมวกทอง รอง ผกก.(สอบสวน) ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 ก.ค. ที่ผ่านมา ทางพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความร้องทุกข์จากนางสวย (นามสมมุติ) ชาวบ้าน ต.หอกลอง อ.พรหมพิราม ได้พา ด.ญ.กุ้ง (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 ว่าลูกสาวถูกนายทองล้วน ภารโรง ข่มขืนกระทำชำเราหลายครั้งในห้องพักของภารโรง
โดยตนเองสังเกตเห็นอาการผิดปกติของลูกสาวที่เคยเป็นเด็กรื่นเริงสนุกสนาน แต่ระยะหลังกลับเป็นคนเก็บตัวเงียบขรึม นอกจากนี้ ยังพบยาคุมฉุกเฉินอยู่ในกระเป๋ากระโปรง เมื่อสอบถามเค้นหาความจริงลูกจึงยอมรับว่าถูกภารโรงคนดังกล่าวข่มขืนหลายครั้ง ช่วงเวลาพักเที่ยงภายในห้องของภารโรงเอง แต่ก็ไม่กล้าเอาเรื่องไปบอกใครเนื่องจากกลัวจะอับอาย ทำให้ตนต้องพาลูกสาวเข้าแจ้งความเอาผิดดังกล่าว
ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาเด็กหญิงผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลแล้วอยู่ระหว่างรอผลตรวจยืนยันที่แน่ชัด พร้อมทั้งจะเตรียมเรียกตัวภารโรงมาสอบปากคำเพิ่มเติมในวันที่ 3 ก.ค. ที่ผ่านมา
แต่ปรากฏว่าภารโรงกลับเกิดความเครียดเนื่องจากทราบข่าวจากเพื่อนที่เป็นตำรวจ ว่าจะมีการเรียกตัวตนเองไปสอบสวนในวันเกิดเหตุ ทำให้ตัดสินใจคิดสั้นผูกคอตัวเองกับคานหน้าต่างห้องพักภารโรงในอาคารเรียนสภาพห้อยโตงเตง จนมีนักเรียนไปพบและแจ้งตำรวจมาตรวจสอบในที่สุด
ทั้งนี้ แนวทางการสอบสวนขั้นตอนต่อไปเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียกตัวแม่เด็กและเด็กหญิงที่ถูกข่มขืนกระทำชำเรา มาสอบปากคำร่วมกับทีมสหวิชาชีพอย่างละเอียดอีกครั้ง เพราะเป็นคดีที่ละเอียดอ่อนเกี่ยวกับเด็กและเยาวชน หากเด็กมีปัญหาเกิดการตั้งครรภ์ในภายหลังจะได้หาวิธีการแก้ไขอย่างถูกกฎหมาย
ส่วนเรื่องของคดีความเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะเร่งทำสำนวน แต่อาจจะไม่ถูกสั่งฟ้องเนื่องจากผู้ก่อเหตุเสียชีวิตไปแล้ว
ขณะที่บรรยากาศภายในโรงเรียน เช้าวันนี้มีเด็กนักเรียนระดับชั้นอนุบาลไปจนถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นมาเรียนตามปกติ แต่อาคารเรียนชั้นประถมศึกษาที่เกิดเหตุภารโรงผูกคอเสียชีวิตได้ปิดอาคารไว้ก่อนเป็นเวลา 4 วัน
พร้อมทั้งมีเจ้าหน้าที่ศึกษานิเทศก์จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 ได้เดินทางมาลงพื้นที่ตรวจสอบและเก็บข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเพื่อรายงานไปยังผู้บริหารให้รับทราบ
นอกจากนี้ ยังให้ครูประจำชั้นของ ด.ญ.กุ้ง (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 ติดตามไปพูดคุยกับเด็กที่บ้านหลังจากไม่มาโรงเรียน 3 วัน พร้อมจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปเยี่ยวยาช่วยเหลือทางด้านสภาพจิตใจของเด็กต่อไป
Cr.Sanook
