สองตายายวัย 89 ปี ชาวจังหวัดขอนแก่น แทบสิ้นเนื้อประดาตัว หลังถูกหญิงสาวอ้างตัวว่าเป็นเพื่อนของลูกสาวที่ทำงานด้วยกันที่กรุงเทพฯ วางอุบายให้สองตายายขุดหน่อข่าไปฝากลูกสาว ก่อนอาศัยจังหวะเผลอบุกเข้าบ้านขโมยเงินเกือบ 2 แสนบาทที่อยู่ใต้ที่นอนหนีลอยนวน ยายฝากถามเสียงสั่นเครือ “ไม่สงสารคนแก่บ้างเหรอ”
วันที่ 3 ก.ค. 62 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 135 หมู่ 4 บ้านสงแสง ต.นาแพง อ.โคกโพธิ์ชัย จ.ขอนแก่น ซึ่งบ้านของนางคำเหมือน สะเดา อายุ 89 ปี และนายอวน สะดา อายุ 82 ปี สองสามีภรรยาที่ถูกคนร้ายเป็นหญิงไม่ทราบแหล่งที่อยู่ ก่อเหตุขโมยเงินสดของสองตายายที่เก็บไว้ใต้ที่นอนภายในบ้านไป จำนวน 180,000 บาท
ทำให้สองตายายแทบสิ้นเนื้อประดาตัว เนื่องจากเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินเพียงก้อนเดียวที่สองตายายช่วยกันเก็บหอมรอมริบเอาไว้มาหลายสิบปี เพื่อเอาไว้เป็นค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน และเก็บเอาไว้ให้กับลูกหลานใช้เป็นเงินจัดงานศพให้กับตนเองเมื่อถึงคราวลาโลก เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 23 ก.พ. 62 ที่ผ่านมา
นางคำเหมือน ผู้เสียหาย เล่าว่า ในวันเกิดเหตุขณะที่ตนและสามีนั่งอยู่เถียงนาหน้าบ้าน ได้มีผู้หญิงคนหนึ่ง อายุประมาณ 35 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาหาตนในบ้าน โดยเข้ามาแนะนำตัวเองว่าชื่อ “อ้อ” เป็นลูกสาวของนายประเสริฐ ชาวบ้านหนองหวาย ต.นาแพง และเป็นเพื่อนของนางปทุมวัน ลูกสาวของตนเองที่ทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ และยังอีกบอกว่าตนเองกลับมาร่วมงานศพของญาติ และจะกลับไปทำงานต่อในอีกวันสองวัน
ซึ่งนางปทุมวัน ที่เป็นเพื่อนกันได้ฝากให้ตนมาเอาหน่อข่า ด้วยความเชื่อใจว่า น.ส.อ้อ เป็นเพื่อนของลูกสาว และเป็นลูกของนายประเสริฐ ซึ่งเป็นบุคคลที่ตนเองรู้จัก จึงหลงเชื่อแล้วรีบนำจอบไปขุดเอาหน่อข่าที่อยู่หลังบ้านมาให้ แต่หลังจากที่ได้หน่อข่าแล้ว น.ส.อ้อ ก็ได้ชวนตนเองและสามีพูดคุยต่อนานเกือบชั่วโมง โดยที่ตนไม่ทันเอะใจว่าจะโทรศัพท์ไปสอบถามลูกสาว
ต่อมา น.ส.อ้อ ได้ขอเข้าห้องน้ำ ตนเองจึงบอกให้เดินเข้าไปทางหลังบ้าน โดยที่ตนและสามีก็นั่งตกแต่งหน่อข่าอยู่เถียงนา กระทุ้งผ่านไปประมาณ 10 นาที น.ส.อ้อ ก็เดินออกมาพร้อมกับบอกว่า “น้ำในห้องน้ำเย็นดีนะยายจ๋า” โดยหลังจากนั้นไม่นาน น.ส.อ้อ ก็ได้ขอตัวกลับบ้าน โดยไม่ได้แสดงท่าทีมีพิรุธแต่อย่างใด
กระทั่งตกเย็นเมื่อตนเองและสามีจะเข้านอน ก็ได้เปิดที่นอนขึ้นเพื่อจะดูเงินที่เก็บเอาไว้ก็ตกตกใจเมื่อพบว่า เงินสดจำนวน 180,000 บาท ที่ใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงซุกไว้ใต้ที่นอนได้หายไปทั้งหมด ซึ่งตนคาดว่า ได้ถูกหญิงสาวคนดังกล่าวขโมยไปในช่วงที่มาขอเข้าห้องน้ำ เพราะในช่วงกลางวันประตูหลังบ้านที่เชื่อมต่อกับห้องใกล้ห้องน้ำไม่ได้ล็อกกุญแจไว้
นางคำเหมือน กล่าวอีกว่า หลังทราบว่าเงินหายก็ได้โทรศัพท์ไปบอกลูกสาวว่าถูกขโมยเงินไป ก่อนจะเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกโพธิ์ชัย ในวันเกิดเหตุ
โดยเงินที่หายไปนั้นทำให้ตนเองและสามีแทบสิ้นเนื้อประดาตัว เหลือเงินติดตัวเพียง 150 บาท ทำให้ตั้งแต่วันนั้นมาคิดถึงเมื่อไหร่ก็ทุกข์ใจ เพราะกว่าจะเก็บเงินมาได้ขนาดนี้ต้องใช้เวลาหลายสิบปี จึงอยากให้ตำรวจช่วยติดตามตัวคนร้ายให้ได้ และหากคนร้ายได้ทราบข่าวนี้ ยายก็อยากจะถามว่า ไม่สงสารคนชราบ้างเหรอ ไม่กลัวบาปกรรมบ้างเหรอ ถึงมาทำกับคนแก่ได้
Cr.Sanook
