“ชมพู่” บ่นสงสาร “เจนี่-วุ้น” #เกิดที่ไทยตายที่คานส์ ปลื้มฉายา “ฟ่านปิงปิงไทยแลนด์”
ถือเป็นช่างแต่งหน้าคู่ใจของนางเอกซูเปอร์สตาร์ ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต เลยทีเดียว สำหรับ ป้อม-วินิจ บุญชัยศรี เมกอัพอาร์ติสต์มือต้นๆ ของเมืองไทย หลังเจ้าตัวเป็นคนแต่งหน้าให้นางเอกสาวเดินพรมแดง ในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ ครั้งที่ 71 ที่ผ่านมา
วันก่อนเจอ ‘ป้อม-วินิจ’ ในประกาศผลรางวัล “ดาราเดลี่ อวอร์ดส” ครั้งที่ 7 ที่ โรงละครเคแบงค์สยามพิฆเนศ สยามสแควร์วัน จึงเข้าไปสอบถามกระแสพรมแดงคานส์ปีนี้ที่มีดราม่ามากมายไปหมด
ถามถึงเรื่องที่หลายคนบอกว่าพรมแดงคานส์ปีนี้ ใครๆ ก็ไปได้?
“เอ้า! เดินแล้วตำรวจจับหรือเปล่า ถ้าเดินแล้วตำรวจไม่มาล็อกมือก็เดินได้หมด(หัวเราะ)”
คือมีคนเปรียบเทียบการไประหว่าง ‘ชมพู่-อารยา’ กับแก๊ง 3 สาว เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ’ วุ้นเส้น-วิริฒิพา และ โยเกิร์ต-ณัฐฐชาช์ ?
“คือเข้าใจมากจริงๆ ทั้ง 3 คนนั้นก็ลูกสาวเราเหมือนกัน มีคนถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง เจนี่เป็นอย่างไรบ้าง เป็นกำลังใจให้นะ สู้ๆ เลย เพราะชมยังพูดเองเลยว่าเขาเข้าใจ 3 คนนั้นมากและเห็นใจมากเพราะครั้งหนึ่งเขาเคยโดนแบบนี้มาก่อน เราเตรียมตัวมาพร้อม อยู่ดีๆ มีฝูงซอมบี้บุก เราขอใช้ว่าฝูงซอมบี้เลย เพราะนางจะเดินเข้ามาโดยที่ไม่สนอะไรเลย แล้วเราก็เห็นใจทีมด้วย เพราะการไปทำงานที่โน่นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ มันไม่ใช่ว่าเราเตรียมพร้อม 100-1,000% ที่นี่แล้วที่โน่นเราจะเหมือนที่นี่ เหมือนกับวันนี้ถ้าพี่ไม่รู้จักน้องๆ นักข่าว ป่านนี้ฉันควรออยู่หน้าแบ็คดรอปอยู่เลยมั้ง มันก็เหมือนกัน”
ได้ถามไถ่กับทั้ง 3 คนบ้างไหมหลับมีดราม่า?
“มันมีเวลาคุยกันน้อยมาก แต่ทั้ง 3 คนก็คือลูกสาวเรา เราเคยแต่งหน้ามาหมดทั้ง 3 คน อย่างเจนี่ก็บอกสบาย หนักกว่านี้หนูก็ยังหัวเราะได้เลย ต้องยอมรับว่าเจนี่เขาเป็นคนที่น่ารัก สตรอง และสดใส เวลาอยู่ใกล้เขาก็ก็จะเป็นคนอารมณ์ดีตลอดเวลา เลนคุยกันว่าถ้ากลับเมืองไทยแล้วมาเจอกันนะ คนไปทำงานเราก็เข้าใจกัน แต่ชมปีนี้อาจจะสบายตรงที่ว่าไปเป็นปีที่ 6 วิทยายุทธแก่กล้า แล้วคอนเนกชันที่นู่นต้องยอมรับว่าปีนี้ทาง L’oreal และ L’Officiel แน่นปังจริงๆ ปัง ปัง ซิล วูเปลล์(S’il vous plait แปลว่ากรุณา) จริงๆ”
รู้สึกอะไรไหมเวลามีการเปรียบเทียบกัน?
“จริงๆ อย่าว่าแต่เขาเลย ทีมของเราเองถ้าไม่มี 3 คนนั้นทางเราอาจจะเป็นเป้าหมาย ยัวนั่งนึกอยู่เลยว่าโชคดีนะที่ 3 คนนี้มาเลยแบ่งเบาไปได้เยอะเลย”
คือเหมือนรับบาปไปแทนเรา เพราะก่อนหน้านี้ชุดวันแรกๆ ของชมพู่ก็โดนหนักเหมือนกัน?
“หนักสิ คืนแรกชุดแดงบนพรมแดงเปิดมือถือมานอนไม่หลับเลย แต่จริงๆ เราก็เตรียมใจเอาไว้บ้างแล้ว เราก็พิจารณามันเป็นจริงอย่างที่เขาพูดไหม อีกอย่างชมพู่ยุ่งมากปั๊มนมด้วยทำงานด้วย ขึ้นเครื่องไป 12 ชม. เสร็จแล้วลงเครื่องปุ๊บก็ทำงานเลย แต่งหน้าทำผมเดินพรมแดง สิ่งที่ได้รับกลับมาคือเป็นคอมเมนต์! คือแบบนี่หรือเมืองพุทธ แอบเฮ้ย! เหมือนกัน แต่ก็เข้าใจคนที่เขียน แต่พอเข้าไปดูคนที่เขียนกลับไม่มีตัวตนสักกะคน ดังนั้นเราก็ไม่ใส่ใจ”
พี่ป้อมรู้สึกอย่างไรที่คนไทยต้องมาด่าคนไทยด้วยกันเอง?
“แหม่! ในโจรมันยังมีคนดีเลย ดังนั้นในคนดีก็ต้องมีโจรแอบแฝง เราก็เลยคิดว่าเอาที่สบายใจเลยค่ะ ตัวเราทำงานต่อไป ไม่ใช่ว่าเราไม่อ่านคอมเมนต์ที่ตินะ เพียงแต่ว่าเราดูถ้าอันไหนมันเป็นจริงอย่างที่เขาพูดเราก็เอากลับมาปรับ สำหรับตัวเราเองคิดว่าไอ้คอมเมนต์พวกนี้มันเป็นคอมเม้นต์ที่ส่วนหนึ่งออกมาจากใจเพราะฉะนั้นสังเกตไหมว่าหลังจากนั้นชมพู่จะสวยมากว่าเดิม เพราะพี่เอาคำเหล่านั้นมาปรับ เลย ปัง ปัง ซิล วูเปลล์(หัวเราะ)”
ชมพู่นอยด์ไหม?
“เหมือนนอยด์แหละ พอดูรูปก็รู้ตัวเอง มีคนคอมเมนต์เข้ามาว่า คุณแม่แท็กฮอยเออร์มา คือตาห้อยมาก(หัวเราะ) เราก็ดูแล้วมันเป็นจริง จากนั้นก็นำมาปรับปรุงเพิ่มขนตาไปอีกชั้นเลย แต่ถ้าไปซีเรียสมากมันก็ทุกข์ แต่ยังไงก็ต้องขอบใจที่ช่วยดูเพราะทำให้ชมพู่สวยกว่าเดิมทุกๆ ปี ลูกค้าก็ปลื้มและแฮปปี้ในสิ่งที่เราทำ พี่มองว่าถ้าเรานำคำเหล่านี้มาพัฒนาขึ้นมันก็เป็นเรื่องดี แต่ถ้าเรามานั่งคิดว่าทำไมต้องด่า ทั้งที่เราเหนื่อยเกือบตาย แบบนั้นจะไม่ได้อะไร”
แสดงว่าพี่ป้อมทำการบ้านหนักมาก?
“ตอนแรกคิดว่าจะสบายๆ เพราะปีนี้ชุดมารอไว้แล้ว ปีนี้เราได้เลือกได้ซ้ำว่าจะเอาชุดไหน แต่ปีแรกไปนั่งรอชุดเหลือๆ ของเบอร์ใหญ่ๆ แต่ปีนี้คนส่งชุดมาเยอะเลยต้องเดิน 6 วัน จะตัดก็ไม่ได้เดี๋ยวคราวหน้าจะไปเอาชุดเขา เขาไม่ให้ใส่อีก เราก็ต้องเผื่อทางไว้เดินข้างหน้าด้วย”
โมเมนต์ของชมพู่ปีแรกเป็นยังไงเมื่อเทียบกับ 3 คนนี้ เพราะทั้ง 3 ต้องวิ่งหากล้องจนคนบอกว่าเหมือนหิวโซ?
“คือของชมไม่ได้ขนาดนั้นเพราะเราไปในในฐานตัวแทนของสปอนเซอร์ใหญ่ ซึ่งเขาเป็นมา 20 ปีแล้ว อีกอย่างเขาไม่ได้สนใจว่าชมจะอายุเยอะ เขาดูแค่ว่ากลับมาของขายโอเคไหม ลุกส์หรือแอตติจูดเป็นอย่างไง สวยแต่โง่ก็มี แล้วชมเวลาให้สัมภาษณ์พูดภาษาอังกฤษ แม้กระทั่งสื่อจีนปีนี้มา 15 เจ้า เขาตั้งฉายาให้ชมพู่ว่า “ฟ่านปิงปิง เมืองไทย” ทั้งที่หน้าไม่ได้จีนเลย คือเป็นฝรั่งตาแทคฮอยเออร์เนี่ยล่ะ แต่เราก็แอบดีใจเพราะ ตอนที่ ‘ฟ่านปิงปิง’ ไปถึงคนกรี๊ดนางจริงๆ ตั้งแต่สนามบินเลย”
ชมพู่มีแฟนคลับต่างชาติมาให้กำลังใจด้วยเห็นเรียกชื่อตลอดเลย?
“อันนั้นจริงค่ะ! ไม่ได้สตรอวเบอร์รี่ หรือจ้างมา ขนาดตอน 5 ทุ่มแม่พาไปกินซีฟู้ดเดินลงจากรถลีมูซีน อุ๊ย! รถลีมูซีนหรูไปหรือเปล่า ตอน 5 ทุ่มครึ่งพวกนางก็ยังเรียก “อารยาๆ” กันอยู่ ชมพู่ก็ขอบคุณ แต่ก็นึกในใจว่าบางทีฉันก็ไม่ไหวจริงๆ เพราะเหนื่อยมาก(หัวเราะ)
มีแฟนคลับตะโกนเรียกชื่อ ‘ป้อม’ ด้วย?
“มี(น้ำเสียงภูมิใจ) นางมากับสามีผมทองเลย แล้วเราไปยืนปุ๊บ มีคนไทยมาเป็นกลุ่มเป็นแก๊ง นางตะโกนขึ้นมา “พี่ป้อมคะ พี่ป้อม” เราก็คิดเรียกเราหรือเปล่านะ ปรากฏว่าใช่อ่ะ นางก็ถามว่าเหนื่อยไหม เราก็บอกไปว่าเหนื่อยค่ะ(เสียงอ่อนแรง) แล้วนางก็บอกว่า “สู้ๆ นะเป็นกำลังใจให้ตลอด” ดีใจนะที่คนไทยขนาดไปอยู่ต่างประเทศ จริงๆ เชิดใส่เราก็ได้ แต่ว่าเขาติดตามเราตลอด คนไทยไปออที่นู่นเยอะ”
มีการเปรียบเทียบว่า 3 คนนั้น(เจนี่, วุ้นเส้น, โยเกิร์ต) ใช้ช่างแต่งหน้าคนเดียวแต่งให้เลยพัง?
“แหม…เราก็เคย เราก็ผ่านมาหมดแล้ว ตอนที่เราไปนิวยอร์ค เกรซ เดอะเฟซ, เจนี่ และปู (ไปรยา) เราก็แต่งหน้า 3 คนเหมือนกัน เพียงแต่ว่าด้วยจังหวะนี้ คนล้มข้ามไม่พอนะคะ ยังจะกระโดดกิงก่องแก้วทับอีกทีหนึ่ง เราว่ามันก็มากเกินไปนะ ถ้าดูถูกคนไทยก็ใจร้าย พูดตรงๆ ตอนแรกก็คิดว่านางมาดึงเรตติ้งพวกเราแน่เลย แต่พอตอนจบเราก็สงสารจังเลย สงสารเขาและเห็นใจเขานะ เพราะจริงๆ ชมก็จะตาห้อยเมื่อนางรู้สึกสงสารใคร นางจะแท็กฮอยเออร์นิดหนึ่ง ชมบอกว่าเห็นใจเข้าเลยนะคะคุณแม่ เพราะเราเคยรู้สึกแบบนี้เมื่อตอนที่เรามาในปีแรกๆ แล้วเราเป็นตัวเล็กๆ”
ถามถึง #เกิดที่ไทยตายที่คานส์ ที่หลายคนตั้งให้ 3 คนนั้น เห็นแล้วสงสารมากน้อยขนาดไหน?
“แรงจริง ถ้าเป็นเราโดนก็ไม่รู้ว่าเราจะยืนอยู่ได้แบบเขาไหม แต่ก็ต้องยอมรับว่าน้องทั้ง 3 คนเข้มแข็งมาก เขาไปทำหน้าที่ คนเราถ้ามีให้ไปมันคือโอกาส แต่เราไม่อยากให้ใครไปทำร้ายโอกาสของคน ถ้าสมมุติว่าทริปนั้นเขาไปแล้วเกิดเปรี้ยงขึ้นมา มันก็เปลี่ยนจากที่บอกว่า #เกิดที่ไทยตายที่คานส์ คือมันก็จะอีกอย่างหนึ่งก็ได้ เพราะฉะนั้นเราคนไทย แล้วปีนี้คนไทยก็ไปสร้างชื่อเสียงให้ชาวโลกได้รู้จักไม่ว่าจะเป็นชม เจนี่ วุ้นเส้น โยเกิร์ต ขอให้พวกเราช่วยกันสนันสนุน มันคือความอยู่รอดของเราทั้งประเทศนะ มันจะดีขึ้น เหมือนกันว่าหากประเทศไทยเป็นที่รู้จัก เราก็จะได้รับสิทธิพิเศษมากกว่า อยากให้พวกเราช่วยกัน รู้นะว่ามันไม่สวยแต่ว่าการไปทำงานต่างประเทศ เราไม่สามารถกำหนดอะไรได้จริงๆ”
ในมุมมองของตัวเรา คิดว่าชุดทั้ง 3 คนนั้นใส่สวยไหมในวันที่เดินพรมแดง ?
“จะให้ตอบขี้เหร่เหรอ(ยิ้มเบาๆ) สวย เพียงแต่ว่า เราพูดตรงๆ เลยนะ ความตั้งใจมันอาจจะไม่ตรงกับที่ไป 3 ดีไซน์เนอร์ไทยที่เป็นเจ้าของชุดเราก็รู้จัก มันไม่ใช่เรื่องว่าตีโจทย์ผิดหรอก คือวันนั้นไปถึงเราก็ไม่รู้หรอกว่าอะไรจะเกิดขึ้น ปีหน้าเขาอาจจะแต่งแบบแคชชวลขึ้น เหมาะกับสิ่งที่ไปมันก็จะดูลงตัว เราก็ต้องขอบคุณเขา เพราะเขาตั้งใจไป แสดงความสามารถให้ชาวโลกยอมรับนั่นแหละ แค่จังหวะไม่ดี อันนี้นะถึงแม้ว่าเราจะไปกันคนละทีมกัน มันก็เป็นคนไทยด้วยกัน เราก็ไม่มาคิดว่าจะมาแข่งอะไรกัน เพราะทุกคนเป็นเพื่อนกัน อยากฝากให้สนับสนุนกัน”