กรมอุทยานฯ มีมติ ปิดอ่าวมาหยาอีก 2 ปี ด้าน ผอ.สำนักอุทยานฯ ระบุก่อนเปิดอ่าวมาหยาต้องให้คณะกรรมการฯ ตรวจสอบทรัพยากรอีกครั้งถึงความพร้อมและไม่ให้เกิดความเสียหายอีก และติดตามทุก 3 เดือนเพื่อตัวกำหนดจำนวนนักท่องเที่ยวที่เหมาะสม
เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ดร.ธรณ์ ธำรงค์นาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะกรมประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในฐานะในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารจัดการอุทยานแห่งชาติ เปิดเผยความคืบความการปิดฟื้นฟูบริเวณอ่าวมาหยาและอ่าวโล๊ะซามะ ในเขตหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ว่า
จากการประชุมที่ปรึกษาอุทยานทางทะเล กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีมติว่า การตัดสินที่จะเปิดปิดการให้บริการท่องเที่ยวขึ้นอยู่กับนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานฯ โดยมีคำแนะนำของคณะที่ปรึกษาอุทยานทางทะเลประกอบการพิจารณา ซึ่งมีมติว่า กรมอุทยานฯ จะปิดอ่าวมาหยาไปอีก 2 ปี เพื่อรอให้สภาพระบบนิเวศ ระบบจัดการดูแลท่องเที่ยว และมาตรการลดผลกระทบ โดยจำกัดนักท่องเที่ยวบนฝั่ง และไม่ให้เรือเข้าไปในอ่าวมาหยาเหมือนสมัยก่อน
ดร.ธรณ์ กล่าวว่า การฟื้นฟูอ่าวมาหยาเป็นส่วนหนึ่งของพีพีโมเดล โดยเน้นข้อมูลประกอบเป็นสำคัญ คือ
- 1.การศึกษาความสามารถในการรองรับเสร็จแล้ว มีตัวเลขพร้อม แต่ตัวเลขดังกล่าวคำนึงถึงการดูแลรักษาธรรมชาติเต็มระบบ
- 2.กรมอุทยานกำลังจัดทำสิ่งอำนวยความสะดวกและระบบป้องกันผลกระทบ เช่น เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ท่าเรือ บ้านพักเจ้าหน้าที่ เป็นต้น ซึ่งการจัดทำทั้งหมดจะเสร็จภายใน 1 ปีเศษ
- 3.ในขณะเดียวกันกรมอุทยานฯ กำลังจัดทำระบบอี-ทิคเก็ต (e-ticket) และระบบติดตามเรือ ซึ่งถ้าสมบูรณ์จะมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการดูแลจัดการท่องเที่ยว
- 4. เมื่อระบบพร้อมอาจเปิดให้มีการทดลอง ในขณะเดียวกันจะมีการประเมินการสภาพระบบนิเวศที่เกิดขึ้นจากการฟื้นฟู ทั้งแนวปะการัง ป่าชายหาด เป็นต้น
- 5. เมื่อการประเมินเสร็จ และผลเป็นตามคาดหวังจะมีการตัดสินใจอีกครั้งในการเปิดให้ท่องเที่ยว
- 6.การเปิดให้ท่องเที่ยวต้องอยู่ภายใต้การดูแลอย่างเคร่งครัด ทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวต่อรอบ จำนวนเรือ เป็นต้น
- 7.ที่สำคัญจะไม่เปิดให้เรือเข้าทางหน้าอ่าวอีกแล้ว เพราะฉะนั้นจะไม่มีผลกระทบต่อแนวปะการังที่กำลังฟื้นฟู หรือฝูงฉลามหูดำที่มาหากินบริเวณอ่าวมาหยา และ
- 8.ต้องมีการติดตามระบบนิเวศ รวมถึงผลกระทบอื่นๆ เช่น ปะการังฟอกขาวที่อาจเกิดขึ้น
ด้านนายทรงธรรม สุขสว่าง ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า มีมติจากกรมอุทยานฯ แล้วว่าจะเปิดอ่าวมาหยาและอ่าวโล๊ะซามะอีก 2 ปี แต่ต้องมีเงื่อนไขว่าจะมีก่อนจะเปิดคณะกรรมการฯ จะเข้าไปตรวจสอบครั้งสุดท้ายอีกครั้งหนึ่งถึงความพร้อมของระบบนิเวศที่จะให้บริการกับนักท่องเที่ยว และจะต้องไม่เกิดความเสียหายอีก โดยมีการสร้างมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันความเสียหายของระบบนิเวศทั้งในน้ำและบนบก
“ภายหลังการเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวแล้ว จะต้องมีการติดตามตรวจสอบสถานภาพของทรัพยากรทุกทุก 3 เดือน เพื่อใช้เป็นตัวกำหนดจำนวนนักท่องเที่ยวที่เหมาะสมของในแต่ละวันหรือในแต่ละรอบของการเข้าชม เพื่อรักษาทรัพยากรที่มีให้คงอยู่” ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ กล่าว
แหล่งที่มาข่าว : ช่าวสด