นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางไปยังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งวันนี้ (7 มิ.ย.) เพื่อยื่นหนังสือให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบการแถลงของกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคอนาคตใหม่ ที่อ้างว่ามีบุคคลที่ 3 เสนอเงินสูงถึง 120 ล้านบาท เพื่อให้ ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ ยกมือเลือก พล.อ.ประยุุทธ์ จันทร์โอชา ว่าเป็นความจริงหรือไม่
รับเงิน = ผิดกฎหมาย
นักเคลื่อนไหวรายนี้ อ้างว่า เหตุผลที่มาร้องเรียน เป็นเพราะถ้าหากสมาชิกพรรคอนาคตใหม่รับเงินดังกล่าวมาจริง ก็จะเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ที่ห้ามให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรับเงิน
“ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ถึง 20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 2,000 บาท ถึง 40,000 บาท หรือประหารชีวิต” มาตรา 149 ของประมวลกฎหมายอาญา ระบุ
นอกจากนี้ นายศรีสุวรรณ ระบุอีกว่า การรับเงินจากผู้อื่น อาจเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง ในมาตรา 28, 29, 44 และ 46 รวมไปถึงมาตรา 88 ที่เกี่ยวกับการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยด้วย
อนาคตใหม่พูดชัดไม่มีใครรับเงิน
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ พรรคอนาคตใหม่ แถลงชัดเจนว่า มีผู้เสนอซื้อตัว ส.ส. ให้เป็น “งูเห่า” แทบยกพรรคจริง แต่ไม่มีสมาชิกคนใดรับเงินเลย เพราะทุกคนมารวมตัวกันด้วยอุดมการณ์ และความหวังที่จะพาประเทศไทยก้าวไปข้างหน้า ไม่ใช่เพราะผลประโยชน์
“ศรีสุวรรณลั่น” ลั่นต้องรับผิดชอบหากไร้หลักฐานซื้องูเห่า
นายศรีสุวรรณ พูดต่อไปว่า แต่ถ้าหากตรวจสอบแล้ว ไม่มีใครมาเสนอเงินซื้อตัว ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ อย่างที่มีการแถลงไป ก็จะต้องเอาผิดผู้ที่กล่าวอ้างตามกฎหมายเช่นกัน และถ้าพรรคอนาคตใหม่ไม่มีหลักฐานใด ก็ต้องรับผิดชอบต่อคำพูดตัวเอง
ขอบคุณ Sanook