ล่าเดนคุก บุกปล้ำยาย 77 ปี กลางดึก ประวัติโชกโชนข่มขืนมาแล้ว 2 ครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (1 พ.ค.) เมื่อกลางดึกของวันที่ 19 เม.ย. คนร้ายได้บุกบ้านของ นางอินถวา อายุ 77 ปี หวังจะขืนใจ เนื่องจากผู้เสียหาย อาศัยอยู่ลำพังมานานหลายปี เนื่องจากสามีเสียชีวิต ส่วนลูกหลาน ไปทำงานต่างจังหวัด มีเพียงเพื่อนบ้านคอยดูแล
โชคดีมีเพื่อนบ้านได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจึงเข้าไปช่วยเหลือ ทำให้คนร้ายวิ่งหลบหนีไปได้ แต่หลังเกิดเหตุทางตำรวจยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ ชาวบ้านจึงมีความกังวลว่า ผู้เสียหายจะได้รับอันตราย เกรงว่าจะย้อนกลับมาทำร้ายอีก โดยทางเจ้าหน้าที่ได้มีการสอบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติม พร้อมวางแนวทางหามาตรการดูแลป้องกัน ไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก
ส่วนความคืบหน้าของคดีหลังเกิดเหตุ ญาติได้นำผู้เสียหาย เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.นาโดน อ.เรณูนคร จ.นครพนม โดยทางด้าน พ.ต.ต.สุระ บุญโยธา สารวัตรสอบสวน สภ.นาโดน อ.เรณูนคร จ.นครพนม ได้ร่วมกับตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่สืบสวนหาเบาะแส
จนกระทั่งทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว อยู่ระหว่างการหลบหนี ทราบชื่อคือ นายปิยพนธ์ อายุ 32 ปี ซึ่งทางตำรวจได้มีการรวบรวมพยานหลักฐาน เสนอศาลจังหวัดนครพนม อนุมัติออกหมายจับแล้ว เมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา ในฐานความผิดบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน และทำอนาจาร ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี
นอกจากนี้ ทางตำรวจยังระบุว่า คนร้ายมีประวัติถูกจับกุมดำเนินคดีมาแล้ว 2 ครั้ง เกี่ยวกับความผิด ในคดีข่มขืนและพยายามข่มขืน เมื่อปี 2557 และปี 2560 ถูกตัดสินจำคุก 4 ปี เพิ่งพ้นโทษมาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2561 จนมาก่อเหตุซ้ำอีก โดยทางตำรวจยืนยันจะเร่งติดตามจับกุมตัวให้เร็วที่สุด เพราะเป็นภัยสังคม
ด้าน นางอินถวา อายุ 77 ปี เล่าเหตุการณ์ ว่า ในช่วงกลางดึกวันเกิดเหตุ ขณะตนนอนอยู่ในระเบียงบ้านตามปกติคนเดียว ได้มีคนร้ายเดินขึ้นมาและมุดเข้าไปในมุ้งก่อนพยายามปลุกปล้ำตน และเอามือบีบคอตน และพยายามจะถลกผ้าถุงตนขึ้น
ตนได้พยายามดิ้นสุดแรง และตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ แต่คนร้ายยังไม่หนี แถมยังบอกตนอีกว่าห้ามตะโกนร้อง จนกระทั่งมีเพื่อนบ้าน ตื่นขึ้นมาดู และเข้ามาช่วยเหลือ ทำให้คนร้ายหลบหนีไป ซึ่งมาถึงวันนี้ตนยังตกใจ หวาดผวาตลอด อยากให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้
ส่วน นางสาวบุญน้อม งามเชื้อ ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ในส่วนของหน่วยงานในสังกัดพัฒนาสังคมและความมั่งคงของมนุษย์ ได้ลงพื้นที่มาดูแลช่วยเหลือเต็มที่ เนื่องจากถือว่าเป็นผู้สูงอายุที่ถูกกระทำความรุนแรง เบื้องต้น ได้มอบเงินดูแลช่วยเหลือ เครื่องอุปโภคบริโภค รวมถึงหารือกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง หาทางป้องกันแก้ไข ไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีก
นอกจากนี้ ยังได้แนะนำชุมชนให้ช่วยกันดูแลรักษาสิทธิในครอบครัว รู้ทันภัยสังคม เพราะปัจจุบันมีปัญหาการกระทำความรุนแรงต่อผู้หญิงขึ้นบ่อยครั้งในสังคม ส่วนหนึ่งจะต้องมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบดูแลร่วมกับชาวบ้าน และจะได้แนะนำให้ชุมชนร่วมกันสอดส่องดูแล และจะหาทางดูแลช่วยเหลือในระยะยาว สำหรับผู้สูงอายุรายนี้ให้ได้รับการดูแลคุ้มครองสิทธิ์ตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ในเรื่องความเป็นอยู่จะได้จัดสรรงบประมาณช่วยเหลือซ่อมแซมบ้าน เป็นเงิน 20,000 บาท เนื่องจากบ้านเรือนทรุดโทรม เป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิต