กลายเป็นความฮือฮาสะเทือนสภา จากกรณีที่ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย งดออกเสียงเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งสวนทางมติของพรรคที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งภายหลังออกเสียง นายสิริพงศ์ถึงกับหลั่งน้ำตากลางห้องประชุม โดยการตัดสินใจครั้งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็ไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน และสะอึกไปเช่นกัน
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่ลงมติงดออกเสียงในการโหวตเลือกนายกฯ เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า ได้ขอโทษผู้ใหญ่ในพรรคและชี้แจงว่า เพราะตนได้รับปากกับประชาชนในพื้นที่ว่าจะเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกฯ เพียงคนเดียว ผิดจากนี้เป็นใครตนก็เลือกไม่ได้ ดังนั้น เมื่อสัญญาแล้วก็ต้องทำตามสัญญา ซึ่งพรรคก็ได้ให้คำแนะนำหลายอย่าง อย่างไรก็ตาม ทางออกของแต่ละคนนั้นมีแตกต่างกัน สำหรับตนหาทางออกอื่นไม่ได้นอกจากทำตามสัญญาที่พูดเอาไว้ ตนเคารพประชาชนและตัวเอง จึงได้งดออกเสียง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้พูดกับผู้ใหญ่อย่างไรบ้าง นายสิริพงศ์กล่าวว่า จริงๆ พรรคมีความพยายามหาทางออกให้กับประเทศ เราพยายามอย่างจริงจังที่จะเป็นขั้วที่สามให้ได้ แต่เมื่อมันไม่เกิด ความเห็นก็แตกต่างหลากหลาย ผู้ใหญ่จึงให้เหตุผลว่า การจะแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้คือการทำนโยบายให้เป็นความจริงขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชน ซึ่งทุกพรรคก็ให้คำมั่นสัญญาแบบนี้กับประชาชน และต้องรักษาให้ได้เช่นเดียวกัน ส่วนการทำงานกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นั้นจะทำงานร่วมกันได้หรือไม่ นายสิริพงศ์กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน และเชื่อว่าไม่มีปัญหา เพราะสิ่งที่ตนทำนั้นไม่ได้เกิดจากความรักหรือความเกลียดในตัวท่าน แต่ทำเพราะตนได้สัญญากับประชาชนไว้ ซึ่งเป็นหน้าที่ของ ส.ส. ที่ต้องทำตามหน้าที่ อันไหนถูกตนก็ทำ เพราะตนเป็นคนรักษาคำพูดก็เท่านั้นเอง ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน ขณะที่การทำงานภายในพรรคหลังจากนี้ก็คงคิดหนัก แต่เมื่อทำไปแล้วสิ่งที่ทำได้อย่างเดียวคือการยืดอกและรอรับผลที่จะเกิดขึ้น
เมื่อถามว่า รู้สึกอึดอัดกับการทำหน้าที่กับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายสิริพงศ์กล่าวว่า ไม่ เพราะตนรักพรรคภูมิใจไทย แต่ตนรู้สึกอึดอัดทุกครั้งที่มีความขัดแย้งกันในสังคมไทยมากกว่า ยืนยันว่ายังอยู่กับพรรค ไม่มีความคิดที่จะย้ายไปไหน สำหรับกรณีที่อาจจะถูกกล่าวหาว่าเป็นงูเห่าของพรรคนั้น นายสิริพงศ์กล่าวว่า แล้วแต่คนจะคิด แต่เรารู้อยู่ว่าทำเพราะอะไร ทำเพื่ออะไร และทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพราะตนไม่มีความจำเป็นต้องไปรับเงินใคร ส่วนหลังจากนี้จะมีการลงมติสวนกับมติพรรคอีกหรือไม่นั้น นายสิริพงศ์กล่าวว่า คงเป็นสิ่งสุดท้ายที่จะทำ เพราะถ้าตนเป็นหัวหน้าพรรคก็คงไม่อยากให้ใครลงมติสวนมติพรรคเช่นกัน
สำหรับกรณีที่มีเสียงชื่นชมว่าเป็นคนมีจุดยืนนั้น นายสิริพงศ์กล่าวว่า ขอบคุณ และอยากให้กำลังใจเพื่อนส.ส.ทุกคนด้วย เพราะทุกคนก็เจอกับภาวะที่ยากลำบากเหมือนกัน ส่วนการตัดสินใจงดออกเสียงนั้นอาจกลายเป็นเงื่อนไขในการต่อรองในการร่วมรัฐบาล นายสิริพงศ์กล่าวว่า ถ้าเป็นอย่างนั้นตนก็ต้องกราบขออภัย สำหรับกรณีที่สัญญาว่าจะเลือกนายอนุทินคนเดียวนั้น ได้สัญญาว่าจะไม่เลือกพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ด้วยหรือไม่ นายสิริพงศ์กล่าวว่า ไม่เคยพูด ตนพูดแค่ว่าเลือกนายอนุทิน ส่วนหากพรรคมีมติไม่ตรงกับใจเรา จะโหวตสวนมติพรรคหรือไม่นั้น นายสิริพงศ์กล่าวว่า ต้องคุยกัน แต่ตนไม่อยากสร้างเงื่อนไขอะไร สิ่งที่ตนทำเมื่อวานนั้นก็ไม่ได้สร้างเงื่อนไขกับใคร แค่ทำตามที่พูดไว้เท่านั้นเอง
ขอบคุณ Sanook