ตำรวจอยุธยาจับ 2 หนุ่มมือเหวี่ยงหมัด ทำร้ายรองประธานสภาเทศบาลเมืองอโยธยา บาดเจ็บปางตายคาร้านอาหาร สารภาพแค้นอีกฝ่ายเมาหาเรื่อง-ท้าต่อย พูดจาถากถางคนอื่น
จากกรณีที่ นายทศพร วิชิตพงษ์ อายุ 52 ปี รองประธานสภาเทศบาลเมืองอโยธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกทำร้ายร่างกายบาดเจ็บอยู่ภายในห้องน้ำร้านอาหารแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้สืบสวนจากภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้าน พบว่า นายทศพร กำลังเต้นอยู่หน้าเวทีกับชายคนหนึ่ง โดยมีการพูดคุยและกอดคอกัน
ก่อนที่ นายทศพร จะแยกตัวออกไปเข้าห้องน้ำ และในขณะนั้นชายคนที่พูดคุยด้วยก็ได้เดินตามออกไป ขณะที่เดินตามออกไปนั้น ได้สะกิดเพื่อนที่สวมใส่เสื้อสีดำนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารให้เดินตามออกไป ก่อนจะเดินกลับเข้ามาตามปกติ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ นายทศพร ไม่ได้กลับเข้ามาในร้าน
กระทั่งมีผู้ไปพบเห็น นายทศพร นอนหมดสติอยู่ในห้องน้ำ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐาน และออกหมายจับ นายดนัย อายุ 32 ปี และนายอุกฤษณ์ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุ ในข้อหาทำร้ายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ติดตามไปจับกุมตัวได้ที่แคมป์คนงานก่อสร้างใน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดในวันนี้ (10 มิ.ย.) ที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ. 1 พ.ต.อ.ณพล กลัดเข็มเพ็ชร รองผบก. ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ. อาทิตย์ ซิ้มเจริญ ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าของคดีและสอบสวนผู้ต้องหา
ร.ต.ต.ธานี โพชีพันธ์ รองนายกเทศบาลเมืองอโยธยา พร้อมด้วยสมาชิกสภาเทศบาล นางพัชรินทร์ วิชิตพงษ์ พี่สาวของนายทศพร ได้เดินทางมาขอบคุณ พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ. 1 และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เร่งรัดคดีติดตามจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว
พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ. 1 เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความสำคัญกับทุกคดีที่เกิดขึ้นที่เป็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน สิ่งที่สำคัญเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเน้นในเรื่องของการป้องกันเหตุมากที่สุด เมื่อคดีเกิดต้องดำเนินการสืบสวนติดตามตัวผู้กระทำผิดอย่างเร่งด่วน ส่วนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้ลงมือกระทำไปเพราะไม่พอใจในคำพูดของคู่กรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมตามคำวินิจฉัยของแพทย์ได้อีก หากอาการของผู้บาดเจ็บยังไม่ดีขึ้น
ขณะที่ นายสมนึก อายุ 38 ปี พี่ชายนายอุกฤษณ์ เปิดเผยว่า ทราบเรืองตั้งแต่วันที่เกิดเหตุแล้วว่า น้องชายไปทำร้ายร่างกายคนอื่น ตนจึงสอบถามกับน้องว่าทำไมถึงทำเช่นนี้ น้องก็เล่าให้ฟังว่าผู้บาดเจ็บเมามาก และมาพูดจาดูถูกคนกำแพงเพชร พร้อมกับท้าชกต่อย ก่อนจะแยกตัวไปเข้าห้องน้ำ ผู้บาดเจ็บยังบอกว่า “ไอ้น้อง มึงต่อยกับกูรึเปล่า” น้องชายก็บอกว่า “ไม่ครับ ผมไม่สู้ครับ”
แต่ผู้บาดเจ็บยังบอกอีกว่า “กูอยากต่อยกับคนข้างหลัง” หลังจากนั้น นายดนัย จึงได้ยกหมัดต่อยอีกฝ่ายจนทั้งล้มทั้งยืน น้องชายจึงเข้าไปช่วยทำร้ายซ้ำ กระทั่งอีกฝ่ายบาดเจ็บสลบกลางอากาศ แล้วเสียหลักหน้าฟาดกับโถปัสสาวะอย่างแรง หลังจากนั้นก็กลับมานั่งดื่มตามปกติ กระทั่งมาทราบว่าอีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บสาหัส และมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในที่สุด
ขอบคุณ Sanook