(8 มิ.ย.62) ที่ สภ.ห้วยยอด พล.ต.ต.นุกูล ไกรทอง ผบก.ภ.จว.ตรัง พร้อมด้วย พ.ต.อ.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน รอง ผบก.ภ.จง.ตรัง พ.ต.อ.ประดิษฐ์ ชัยพล ผกก.สภ.ห้วยยอด และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ แถลงข่าวการจับกุม นายปานชัย อายุ 33 ปี ชาวจ.พังงา บวชเป็นพระ ได้มาอาศัยที่วัดห้วยยอด และ วัดเขาปูน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ได้ประมาณ 1 สัปดาห์ โดย ก่อนหน้านี้บวชเป็นพระอยู่หลายวัด ล่าสุดอยู่ที่วัดกะปง จ.พังงา
จนกระทั่ง พระปานชัยได้มาอาศัยใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง 2 วัดคือวัดห้วยยอดและวัดเขาปูน โดยเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2562 เวลา 07.00 น พระปานชัยได้เข้าไปหาเจ้าอาวาสที่กุฎิไม่พบจึงแอบซ่อนไปอยู่ในกุฎิเจ้าอาวาส เมื่อเจ้าอาวาสเสร็จภารกิจเพลเช้าจากโรงฉันท์ ก็กลับเข้ากุฎิ พระปานชัย ได้โอกาสจึงลงมือฆ่าโดยใช้เหล็กยาวประมาณ 65 เซนติเมตร ตีที่ศีรษะ ตีที่แขนจนกระดูกหัก เมื่อเจ้าอาวาสล้มลงก็ได้ใช้ เหล็กและด้ามจับตาลปัตร แทงเข้าที่บริเวณทวารหนักจนเลือดไหลออกมา ก่อนที่ชาวบ้านจะทราบว่าเจ้าอาวาสถูกฆ่า
หลังเกิดเหตุพระปานชัยก็วิ่งหลบหนีออกจากวัด ชาวบ้านได้ร้องตะโกนและช่วยกันจับพระปานชัยได้ที่ หน้าสถานีอนามัย ก่อนที่ชาวบ้านจะนำ พระครูสุทธิวาปี หรือ หลวงไข่ อายุ 71 ปี เจ้าอาวาสวัดเขาปูน ต.ท่างิ้ว อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ส่งโรงพยาบาลศูนย์ตรัง ล่าสุดหลวงไข่มาทำการรักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์ตรัง อ.เมือง จ.ตรัง ตั้งแต่เช้าวันที่ 7 มิถุนายน และในเวลา 22.00 น วันเดียวกัน เจ้าอาวาสได้มรณภาพเพราะทนพิษบาดแผลและสมองได้รับบาดกระทบอย่างหนักจึงมรณภาพ
ล่าสุด ตำรวจทำการสอบถามผู้ต้องหาอย่างละเอียด ถึงมูลเหตุจูงใจที่ลงมือฆ่าเจ้าอาวาสในครั้งนี้ หลังพระปานชัยก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจและชาวบ้านได้นำตัวพระปานชัยไปทำการสึกที่วัดหนองช้างแล่น อ.ห้วยยอด จ.ตรัง โดยที่พระปานชัย สารภาพว่า เป็นคนลงมือทำร้ายและฆ่าเจ้าอาวาสจริง สาเหตุที่ฆ่าเจ้าอาวาสเพราะตนเองชื่อว่าเจ้าอาวาสหรือ หลวงไข่ มีวิชาอาคม ทำคุณไสยใส่ตนเองจนตนเองทนไม่ไหว ในแต่ละวันจะมีอาการป่วย แน่นหน้าอก ในหูจะได้ยินเสียง และมีภาพเจ้าอาวาสวัดเขาปูนปรากฏอยู่ตลอดเวลาขณะที่อยู่พังงา
จึงนำอาวุธที่เป็นเหล็กผูกติดด้วยธงสีเหลือง และด้ามตาลปัตร ใส่ย่ามมาเพื่อฆ่าด้วยวิธีที่เชื่อกันว่าสามารถแก้อาถรรพ์ให้ตนหายป่วยได้ คือการใช้เหล็กและด้ามตาลปัตร ทิ่มแทงรูทวารหนัก เพื่อคลายมนต์ขลัง คลายคุณไสย
เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยอีกว่า ได้นำผู้ต้องหา มาทำการสอบสวนที่สภ.ห้วยยอด รวมทั้งทำการตรวจหาสารเสพติดในร่างกายเช่น ปัสสาวะ ไม่พบสารเสพติด จากการสอบสวนพบว่านายปานชัยนั้น เคยรับการรักษาอาการทางประสาทที่คลินิกเขาหลัก จ.พังงามาแล้ว แต่ยังไม่พบว่าทำการรักษาที่โรงพยาบาล ในเรื่องนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบสวนให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นในการดำเนินคดีในครั้งนี้
ขอบคุณ Sanook