(26 มิ.ย.62) เวลา 11.30 น. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม พล.ต.ต.อภิศักดิ์ เดชะคำภู ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ทหารจากกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดมหาสารคาม ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายวีระศักดิ์ หรือ เบนซ์ อายุ 21 ปี ชาว จ.มหาสารคาม พร้อมด้วยของกลาง 8 รายการ ได้แก่ ยาบ้า 328 เม็ด รถจักรยานยนต์ฮอนด้า คลิก สีขาวดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ซีบี 150 สีเทาดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หมวกกันน็อคสีดำ เสื้อคลุมสีดำ เสื้อยืดสีเทา มีดสปาร์ตา ขนาดความยาวประมาณ 60 เซนติเมตร 1 เล่ม และเมมโมรี่การ์ด 20 อัน หลังจากผู้ต้องหาตระเวนก่อเหตุชิงทรัพย์ในพื้นที่ สภ.โกสุมพิสัย อำเภอโกสุมพิสัย และ สภ.เขวาใหญ่ อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม รวม 5 ครั้ง จนเป็นเหตุให้เจ้าทรัพย์ถึงแก่ความตาย
พล.ต.ต.อภิศักดิ์ เดชะคำภู ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุ คือนายวีระศักดิ์ หรือ นายเบนซ์ อายุ 21 ปี ได้ตระเวนออกชิงทรัพย์ในหลายท้องที่ รวม 5 ครั้ง โดย 4 ครั้ง เกิดขึ้นที่พื้นที่ สภ.โกสุมพิสัย ตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน ก่อเหตุที่ถนนคลองชลประทานบ้านเลิงใต้-เลิงบัว ต.เลิงใต้ วันที่ 19 มิถุนายน ก่อเหตุที่ปากทางเข้าหมู่บ้านโนนขอนทอย ต.เลิงใต้ โดยใช้รถจักรยานยนต์ตามประกบแม่ค้าขายผักแล้วใช้ไม้ฟาดหน้าจนรถเสียหลักล้มแล้ว ใช้มีดสปาร์ตาไล่ตามไปฟันแล้วชิงทรัพย์สินไป ที่บริเวณถนนสายบ้านแห่ใต้-บ้านหัวช้าง หมู่ 2 ต.แห่ใต้ วันที่ 21 มิถุนายน ก่อเหตุที่ บ้านเลขที่ 101 บ้านดอนเงิน ต.เขวาใหญ่ อ.กันทรวิชัย และวันที่ 24 มิถุนายน ก่อเหตุที่บ้านเลขที่ 33 หมู่ 9 บ้านโนนสุวรรณ ต.ยางน้อย อ.โกสุมพิสัย
โดยครั้งที่ 4 ที่ผู้ต้องหาก่อเหตุ ได้เข้าไปทำร้ายร่างกายและชิงทรัพย์ นางนวลจันทร์ อายุ 71 ปี ที่บ้านดอนเงิน ต.เขวาใหญ่ อ.กันทรวิชัย ซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทรัพย์สินที่ได้ไปเป็นสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท พร้อมจี้น้ำหนักประมาณ 50 สตางค์ บัตรเติมเงินโทรศัพท์ ประมาณ 100 ใบ และเงินขายของจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ลงพื้นที่หาข่าวจนทราบว่าผู้ต้องสงสัยใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าคลิก เป็นพาหนะก่อเหตุ พร้อมประสานข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ สภ.โกสุมพิสัย ซึ่งมีเขตรับผิดชอบติดต่อกัน จึงทราบว่าคนร้ายเป็นบุคคลคนเดียวกันกับที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ในพื้นที่ อ.โกสุมพิสัย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังออกสืบสวนหาข่าวจนทราบว่า มีบุคคลนำสร้อยคอทองคำของนางนวลจันทร์ ผู้เสียชีวิต ไปจำนำที่ร้านทองแห่งหนึ่ง ในเขตพื้นที่ สภ.เขวาใหญ่ ซึ่งเมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นนายวีระศักดิ์ เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนจับกุม จนสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด ซึ่งจากการสังเกตผู้ต้องหาวนเวียนก่อเหตุในพื้นที่ ทำมาแล้ว 5 ครั้งโดยเน้นเป็นผู้หญิงและคนแก่
จากการสอบถามผู้ต้องหา ยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุชิงทรัพย์ และวิ่งราวทรัพย์จริง จึงได้นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านผู้ต้องหาและบ้านญาติ 2 หลัง เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม พบหมวกกันน็อค เสื้อแจ็คเก็ต ที่ใช้ในวันก่อเหตุ มีดสปาร์ตา ยาว 60 ซม. และยาบ้า จำนวน 328 เม็ด พร้อมทรัพย์สินของผู้เสียหายอีกหลายรายการ โดยผู้ต้องหาบอกว่าเพิ่งพ้นโทษคดียาเสพติด มาได้ประมาณ 5 เดือน ไม่มีงานทำ และติดยาบ้าอย่างหนัก ต้องเสพวันละประมาณ 50 เม็ด เงินที่ได้มาจากการชิงทรัพย์ ก็นำไปซื้อยาบ้ามาเสพทั้งหมด
เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ชิงทรัพย์, ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม, มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย
ด้านนางปรวรรณ อายุ 59 ปี ราษฏร ต.เลิงใต้ อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ผู้เสียหายที่ถูกชิงทรัพย์ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่จับคนร้ายได้ ชาวบ้านจะได้สบายใจ แต่ตอนนี้ตนเองยังรู้สึกกลัว ไม่กล้าเดินทางไปไหนมาไหนคนเดียวเหมือนเมื่อก่อน อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งปราบปรามยาเสพติให้หมดไปโดยเร็ว ไม่ให้มามอมเมาเด็กและเยาวชน เพราะเดี๋ยวนี้ยาบ้าหาง่ายเหมือนซื้อขนมกิน จะได้ไม่ต้องมีคนร้ายมาก่อปัญหาอาชญากรรมอีก
ทั้งนี้ ผู้เสียหายที่เคยถูกชิงทรัพย์ และญาติของผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมามอบดอกไม้เพื่อแสดงความขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทุ่มเท แรงกายแรงใจช่วยเหลือเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้อย่างรวดเร็ว เพื่อที่คนอื่นจะได้มีตกเป็นเหยื่ออีกต่อไป
Cr.Sanook