บ้านหรูดาราสาวโดนด้วย! จนท.ลุยยึด 135 รีสอร์ตสร้างบุกรุกป่าเขาค้อ

เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ที่ศูนย์อำนวยการประสานงานและแก้ไขปัญหาโครงการลุ่มน้ำเข็ก อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ นายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ นายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กอ.รมน. นายชิต อินทรนก ป่าไม้จังหวัดเพชรบูรณ์ ร.ต.เอกชัย ดอนกาวิน ผู้แทนศอป.โครงการลุ่มน้ำเข็ก ร่วมประชุมร่วมกับคณะทำงานฝ่ายปฏิบัติการเพื่อแก้ไขปัญหาการครอบครองการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ป่าที่กองทัพภาค 3 ขอใช้ประโยชน์จากกรมป่าไม้ในพื้นที่ อ.เขาค้อ

จากนั้น นายอรรถพล และนายชีวะภาพ พร้อมเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และทหารลงตรวจสอบพื้นที่และจับกุมรีสอร์ตชื่อ “ในสายหมอก” ตั้งอยู่ในซอยดารา หมู่ 1 บ้านกนกงาม ต.เขาค้อ ซึ่งพบว่าเป็นรีสอร์ตของดาราสาวชื่อดังคนหนึ่ง โดยพบสิ่งปลูกสร้างเป็นรีสอร์ต์ 6 หลังและอาคารขนาดใหญ่ 2 หลังเชื่อมต่อกัน เปิดเป็นร้านอาหารมีเวทีดนตรี และซอยเป็นห้องพักอีกหลายห้องในเนื้อที่กว่า 13 ไร่ แต่ไม่พบผู้ดูแล เจ้าหน้าที่จึงรังวัดตรวจสอบและทำการตรวจยึดไว้ จากนั้นจะออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป เนื่องจากเป็นรีสอร์ต 1 ใน 135 แห่งที่บุกรุกป่าและไม่ได้อยู่ในแปลงที่ดินรอส.

นายอรรถพล กล่าวว่า เรามีคณะทำงานร่วมกันหลายฝ่ายแต่งตั้งโดยผู้ว่าฯ และได้มีการคัดกรองแยกแยะกลุ่มผู้ที่เข้ามายึดถือครอบครองพื้นที่ที่กองทัพภาคที่ 3 ขอใช้ประโยชน์ และในส่วนที่จัดที่ทำกินให้ราษฏรอาสาสมัคร ก็พบว่ามีอีกกลุ่มที่อยู่นอกเขตพื้นที่รอส.และเมื่อสำรวจแล้วพบว่ามี 135 รีสอร์ต ที่ต้องมีการบังคับใช้กฎหมายก็เลยเป็นที่มาที่ไปของการที่จะต้องมาดำเนินคดี

“ก่อนหน้านี้เราก็ได้มีการสร้างความเข้าใจ ชี้แจงมาตั้งแต่ต้นปี 2561 ที่ผ่านมาแล้วว่า ประชาชนที่ประกอบการอยู่ในพื้นที่มีการยึดถือครอบครองที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ฉะนั้นก็ต้องเข้าสู่ขบวนการทางกฎหมาย และมีการทำความเข้าใจและชี้แจงให้ทราบถึงการปฎิบัติของเจ้าหน้าที่ ซึ่งทำลักษณะจากเบาไปหามาตรการที่เข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ และนอกจากการดำเนินคดีภายใต้พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติพระราชบัญญัติป่าไม้แล้ว ก็จะดำเนินคดีในส่วนของกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นพระราชบัญญัตควมคุมอาคาร และพระราชบัญญัตที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายปกครอง

ส่วนคำถามที่ว่ารีสอร์ทที่จับกุมเป็นของดาราจะมีปัญหาตามมาหรือไม่ คงไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะไม่ว่าจะประกอบอาชีพอะไร ภายใต้ความยุติธรรมที่เราให้เท่าเทียมกันหมด คงไม่มีผลอะไรเชื่อว่าทุกคนที่เป็นเจ้าของรีสอร์ตทั้ง 135 ราย ก็คงไม่ใช่ผู้มีอิทธิพลหรือผู้ที่จะมากดดันเจ้าหน้าที่ได้”